ตม.สงขลา รวบรถตู้ขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 17 ราย คาดปลายทางประเทศที่สาม พบจ่ายค่านายหน้าสูงถึง 85,000 บาทต่อคน

เมื่อเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ พิทักษ์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ได้สกัดจับรถตู้ต้องสงสัยที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บนถนนสายเอเชีย ขาล่องใต้ พื้นที่ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หลังได้รับแจ้งเบาะแส

เจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถตู้สีขาว ทะเบียนสมุทรปราการ คันหนึ่ง ก่อนจะประสานตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ตั้งจุดสกัดที่หน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงรัตภูมิ เมื่อรถตู้คันดังกล่าวมาถึงจุดสกัด คนขับมีท่าทีพิรุธและพยายามจะกลับรถเพื่อหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น

จากการตรวจสอบ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งเบียดเสียดกันอยู่ภายในรถรวม 17 คน จึงได้ควบคุมตัว นายชำนาญ สว่างฉาย อายุ 47 ปี คนขับรถ มาสอบสวน นายชำนาญให้การว่า ได้รับการติดต่อทางไลน์จากหญิงชื่อ "น้ำฝน" ให้ไปรับแรงงานชาวเมียนมาจากจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปส่งที่จังหวัดสงขลา โดยได้รับค่าจ้าง 2,500 บาทต่อคน ซึ่งเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง

นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสงขลาได้ขยายผลจับกุม นายอนุกูล สุขเอียด อายุ 36 ปี ซึ่งขับรถกระบะมารอรับแรงงานกลุ่มนี้อยู่ที่หน้าวัดควนรู ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ นายอนุกูลให้การว่า ได้รับการติดต่อจากชายชาวมาเลเซียชื่อ "บัง" ให้มารับแรงงานกลุ่มนี้ โดยจะได้รับค่าจ้าง 500 บาทต่อคน เพื่อนำไปส่งยังป่าริมถนนกาญจนวนิช ใกล้สุสานจีนบ้านพรุ

จากการสอบสวนแรงงานชาวเมียนมาผ่านล่าม พวกเขาทั้งหมดให้การว่า ต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยได้ตกลงจ่ายค่านายหน้าให้กับนายหน้าชาวเมียนมาและมาเลเซียไปแล้วคนละ 5.5 ล้านจั๊ต หรือประมาณ 85,000 บาท และได้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติในจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะมีรถกระบะมารับและเปลี่ยนถ่ายขึ้นรถตู้คันดังกล่าวจนถูกจับกุม

เบื้องต้น แรงงานต่างด้าวทั้ง 17 คน ถูกแจ้งข้อหา "เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่วนนายชำนาญและนายอนุกูล ถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้าผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่" จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 001