ผ่าน 15 วัน กำหนดเปิด-ปิด ชายแดน ขนส่งสินค้า ผู้คน เข้า - ออก ลดลง ผลผลไม้ยังห้ามเข้า ,ขณะชาวกัมพูชาขนของกลับบ้านบอกไม่ได้หนีกลับตามผู้นำ แต่หมดฤดูผลไม้ เดี๋ยวกลับมาใหม่
วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เข้าสู่วันที่ 15 ของการ เปิด – ปิด ด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ตามคำสั่งหน่วยเฉาะกิจนาวิกโยธินตราด ให้เปิด 08.00 น. จากเดิม 06.00 น. และให้ปิด 16.00 น. จากเดิม 22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2568 นั้น
บรรยากาศเช้านี้ยังคงไปเป็นตามปกติ ชาวไทย ชาวกัมพูชา เดินทางเข้าออกไปเหมือนเดิม รถขนส่งสินค้า ยังคงเข้าออกได้ปกติเช่น แต่เมื่อผ่านด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็กแล้ว ยังคงต้องรอเวลาอีก 1 ชั่วโมง เนื่องจากด่านบ้านจามเยี่ยม จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา เปิดด่านเวลา 09.00 น.
ขณะที่ชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในจังหวัดตราด ยังคงทยอยเดินทางกลับประเทศ พร้อมทั้งขนสิ่งของเช่น เสื้อผ้า ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น
แรงงานชาวกัมพูชารายหนึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ครอบครัวเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากครอบครัว ทำงานเป็นแรงงานที่สวนผลไม้ในจังหวัดตราด เมื่อผลไม้หมดก็เดินทางกลับบ้านเป็นปกติแบบนี้ทุกปี เมื่อถึงเวลาฤดูผลไม้ก็จะกลับเข้ามาทำงานในจังหวัดตราดอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ผู้นำประเทศ ให้กลับประเทศ ทำงานภายในประเทศนั้น คงไม่ใช่ เพราะรายได้ที่ประเทศไทยดีกว่า
ส่วนการขนส่งสินค้าผ่านแดนยังคงดำเนินไปตามปกติ แต่ทางด่านบ้านจามเยี่ยม ยังไม่อนุญาตให้รถขนส่งผักและผลไม้ผ่านเข้าประเทศได้ โดยเฉพาะรถคอนเทนเนอร์ ยังคงขนส่งสินค้าไป และวันนี้มีรถคอนเทนเนอร์ กว่า 30 คัน ต่อแถวยาวกว่า 600 เมตร เพื่อรอข้ามแดนไปส่งสินค้าในฝั่งจังหวัดเกาะกง
ขณะที่อำเภอคลองใหญ่ รายงาน สถิติ คนเข้า- ออก รถเข้า - ออก และมูลค่าสินค้าส่งออก-นำเข้า หลังจากที่มีการปรับเวลา เปิด ปิด ด่านใหม่นั้น พบว่า มีคนเข้า 5,320 คน มีคนออก 5,469 คน รถเข้า 1,925 คัน รถออก 1,685 คัน มูลค่าสินค้าเข้า 129,972,686.84 บาท มูลค่าสินค้าออก 1,411,116,079.33 บาท โดยสถิติทั้งหมด มีอัตราลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเปิด-ปิดในเวลา 06.00 – 22.00 น. เนื่องจากรถขนส่งสินค้ามีเวลาจำกัดกว่าเดิม อีกทั้งด่านจามเยี่ยม จ.เกาะกง ยังคงห้ามรถผักผลไม้ผ่านแดนเหมือนเดิม
ขณะมูลค่าการค้าขายชายแดนไทยกัมพูชาผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ในปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567-เดือนพฤศจิกายน 2568 หรือ 8 เดือน พบว่า มีมูลค่าการนำเข้าจำนวน 2,690,431,566.74 บาท และมีมูลค่าการส่งออกจำนวน 18,681,103,812.98 บาท รวมมูลค่า 21,371,431,379.72 บาท โดยสินค้าที่นำส่งออก 4 อันดับแรกคือ 1)นมและอาหารเสริม มูลค่า 1,308,795,568.01 บาท, 2)เครื่องดื่มอัดลมและเครื่องดื่มไม่อัดลม มูลค่า 1,252,294,675.43 บาท 3) น้ำตาลทราย 1,226,746,590.67 บาท และ4) ชุดสายไฟฟ้า 744,773,664.46 บาท ส่วนสินค้าที่นำเข้ามากที่สุด 4 อันดับแรกคือ 1) ชุดสายไฟรถยนต์สำเร็จรูป มูลค่า 1,402,901,321.52 บาท 2)กางเกงขาสั้นบุรุษทำด้วยโพลีเอสเตอร์ มูลค่า 267,318,144.23 บาท และ 3)ปลาสดหรือแช่เย็น 231,102,350.00 บาท,และ4)ภาชนะบรรจุทำด้วยพลาสติก มูลค่า 157,392,336.64 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี