นักท่องเที่ยวกระโดดหนีตายหลังพายุฝนพัดถล่มชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน บ้านเรือนประชาชนและโฮมสเตย์พังเสียหายยับ

29 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 17.30 น. นายวิษณุ เข่งสมุทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่าในพื้นที่มีพายุฝนพัดถล่มจนบ้านเรือนประชาชนและโฮสเตย์พังเสียหายหลายหลัง จึงรายงาน นายอิฐเชษฐ์ นาคะเต นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์ทราบ ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ก่อนจะรายงานไปยังหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ

ที่เกิดเหตุอยู่ในชุมชนบ้านขุนสมุทรจีนอยู่ห่างจากถนนสุขสวัสดิ์ประมาณ 20 กิโลเมตร พบเป็นชุมชนและแห่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.พระสมุทรเจดีย์ โดยที่เกิดเหตุยังมีฝนตกตลอดเวลา ตรวจสอบภายในชุมชนพบบ้านเรือนประชาชนเสียหายนับได้เบื้องต้นจำนวน 3 หลังคาเรือนโดยพายุฝนได้พัดหลังคาบ้านเสียหาย บริเวณขุนสมุทรโฮมสเตย์ พบบ้านพักพังเสียงหายถล่มลงไปในวังจำนวน 2 หลัง โดยหลังแรกเป็นบ้านพักขนาด กว้าง 7 เมตร ยาว 9 เมตรแบ่งเป็น 2 ห้องนอนได้พังลงไปในน้ำข้าวของเครื่องใช้อาทิ ชุดเครื่องนอน พัดลม กาน้ำร้อน จมน้ำเสียหายทั้งหมด ซึ่งบ้านพักหลังนี้มีนักท่องเที่ยวชาย-หญิง ได้กระโดดหนีตายเอาตัวรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด และอีก 1 หลังเป็นบ้านพักขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร ได้พังลงไปในน้ำเหมือนบ้านหลังแรกข้าวของเครื่องใช้จมน้ำทั้งหมด ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลเพียงตา ล้มระเนระนาด ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางทางเดิน

จากการสอบถาม นายธนกฤต เก็งสุวรรณ อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักในบ้านหลังเกิดเหตุเล่าว่า ตนพร้อมแฟนสาวได้เห็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้มาทางแฟลตพอร์มหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก  ตนและแฟนสาวจึงตัดสินใจเดินทางมาจากเขตดินแดง กรุงเทพ มาติดต่อขอเข้าพักที่โฮมสเตย์แห่งนี้เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ในขณะที่ตนยืนชมธรรมชาติอยู่บริเวณระเบียงด้านหน้าบ้านพักและแฟนสาวกำลังทำธุระอยู่ในห้องนอน ได้มีลมพายุพัดมาอย่างรุนแรงกระทบตัวบ้านและร่างกายตนอย่างแรงจนเซล้มไม่เป็นท่า ก่อนที่บ้านทั้งหลังจะเอนก่อนพังลงในน้ำและน้ำค่อยๆไหลท่วมพื้นบ้าน หลังจากที่ตนตั้งสติได้จึงรีบลุกวิ่งไปที่ห้องนอนคว้ามือแฟนสาวรีบปีนกระโดดของมาจากบ้านพักในสภาพเนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำ ก่อนที่พนักงานมาช่วยเหลือและเข้าไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวออกมาจากบ้านได้ ตนและแฟนสาวตกใจมากตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย

ในส่วน นายวิลพ เข่งสมุทร อายุ 70 ปี เจ้าของขุนสมุทรโฮมสเตย์ กล่าวว่าโฮมสเตย์ดังกล่าวเป็นของครอบครัวมีอยู่ทั้งหมด 5 หลัง โดยปลูกมานานแล้วหลายปีและบริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนนั่งดูโทรทัศน์อยู่หน้าร้านค้าทางเข้าโฮมสเตย์ได้ยินเสียงลมพัดมาอย่างแรงนานกว่า 15 นาที ก่อนได้ยินเสียงศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลเพียงตา ล้มกระแทกพื้นจนเศษกระเบื้องหลังคากระเด็นมาโดนหลังตน ตนได้หันไปมองรอบร้านเห็นต้นไม้และกิ่งไม้โยกไหวเอนจนน่ากลัว ก่อนที่ลมจะสงบลงและมีฝนตกลงมาอย่างหนัก หลังจากนั้นหลานชายได้เดินมาบอกว่าลมได้พัดกระแทกบ้านพักพังลงน้ำไป 2 หลัง นักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในบ้านพักช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบและลงมาตรวจสอบ

เบื้องต้นทาง ผู้ใหญ่บ้านได้รายงานไปยังทางอำเภอพระสมุทรเจดีย์ทราบแล้ว ก่อนในวันพรุ่งนี้จะประสานทางหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมพร้อมเข้าช่วยเหลือและเยียวยาในเรื่องภัยพิบัติต่อไป