นายกฯย้ำผลสอบ
เหตุตึกสตง.ถล่ม
ออกแบบผิดก.ม.
สั่งDSI-ตร.เอาผิด
นายกฯ สรุปผลสืบสวน 3 เดือน ปมตึกสตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว 28 มีนาคม เผยใช้เทคโนโลยีญี่ปุ่น จำลองเหตุ เผยออกแบบ-ก่อสร้างผิดก.ม. ส่วนเหล็ก-คอนกรีต มาตรฐานปกติผิดที่วิธีก่อสร้างจนเกิดปัญหา เตรียมส่งข้อมูลให้ดีเอสไอ-ตร.สอบสวน หาคนรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องจากแผ่นดินไหว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
จากนั้นเวลา 12.15 น.นายกฯ แถลงว่า การประชุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมโยธาธิการและผังเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเอกภาพ โดยจากทุกสถาบันมีข้อมูลที่สอดคล้องกัน ดังนี้ พบว่ามีการบกพร่องในการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง โดยเฉพาะเทคนิคในการก่อสร้าง ในส่วนของผนังช่องลิฟท์ ผนังบันไดหรือที่เรียกว่าผนังรับแรงเฉือน เป็นสิ่งที่เกิดปัญหา
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องของวัสดุไม่ว่าเหล็กหรือคอนกรีต เป็นวัสดุปกติที่ได้มาตรฐานทั่วไป แต่การนำมาใช้ในโครงการนี้และเกิดปัญหา เป็นเรื่องของคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานและวิธีการสร้างของโครงการนี้ที่มีปัญหา เป็นสิ่งที่หลายภาคส่วนมีความกังวลอาคารอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานมา มีการก่อสร้างหลายๆ จุด ที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง ทั้งในการวิจัยออกมาและมีการทำจำลองตัวตึก ระบุว่าถ้าปฏิบัติตามกฎหมายจะสร้างความแข็งแรงให้ตึกเพิ่มมากขึ้น และจะสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่านี้แน่นอน โดยเราใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
“ขอย้ำอีกครั้งว่าโครงการอื่นๆ มีการตรวจสอบในด้านวัสดุก่อสร้างอย่างเคร่งครัด ไม่ได้มีปัญหาใดๆ และอยากให้ประชาชนสบายใจในเรื่องนี้ ต่อจากนี้เราจะนำข้อมูลที่ได้ทำเป็นรูปเล่มให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ และส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ เพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ขอตอบปัญหาประชาชนเบื้องต้นว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการออกแบบและการก่อสร้างของโครงการนี้ที่มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัดซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามว่าสรุปได้หรือยังว่าความเสียหายของอาคาร สตง.ถล่ม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการออกแบบและโครงสร้างการก่อสร้างที่มีปัญหา เรื่องที่ว่าใครผิดหรือไม่ ต้องให้ตำรวจทำงานร่วมกับดีเอสไอ ซึ่งเราทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ใครที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมายตามกระบวนการ
ต่อข้อถามว่า ตัวเหล็กไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาที่คอนกรีตใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตัวเหล็กไม่มีปัญหาอะไร แต่มีปัญหาพวกวัสดุอื่นๆ ซึ่งเอามา ไม่ผิด แต่พอมาสร้างในโครงการนี้มีการเฉือนให้บางลงซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ ตอนแรกตนก็กังวลใจในเรื่องของที่ไม่มีคุณภาพกับโครงการอื่น แต่เป็นการมาบิดในโครงการนี้ เมื่อถามอีกว่า ถ้าปัญหาเป็นเรื่องของการออกแบบ ทาง สตง.ที่เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง ต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องให้ทางดีเอสไอกับตำรวจ ช่วยดูว่าอย่างไรบ้าง ใครต้องรับผิดชอบส่วนไหนบ้าง เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ได้ให้ทางผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี 90 วัน ในการหาสาเหตุจากกรณีแผ่นดินไหวและยื่นข้อมูลให้ดีเอสไอกับตำรวจดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า น้ำหนักที่จะเอาผิดอยู่ที่ผู้ออกแบบและผู้ที่ทำเรื่องของโครงสร้างใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ข้อมูลที่ออกไป คนจะมองต่างมุมว่าแบบไหนผิดหรือถูก ฉะนั้นอยากให้เป็นไปตามกระบวนการที่เป็นกลางมากที่สุด ทำแบบนี้ใครผิด ซึ่งตนไม่ได้มีหน้าที่ชี้ว่าใครผิด แต่ตอนนี้ทราบว่ามีดำเนินการที่ผิดกฎหมาย เมื่อถามว่ากระบวนการการตรวจสอบ สตง.จะไม่เงียบใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เงียบแน่นอน เดี๋ยวอีก 2 สัปดาห์ ก็จะมีรายงานที่เป็นรูปเล่ม และส่งให้ดีเอสไอกับตำรวจ เรารู้ว่าประชาชนไม่ลืม และรออยู่ว่าตึก สตง.ถล่มเกิดจากอะไร เราได้คำตอบแล้ว จากนั้นให้ว่าไปตามกระบวนการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี