6 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สิริฤกษ์ชัย เป้ามณี รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ท.ไกรสร พุ่มแย้ม สว.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.งานสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว(ชป.2) ออกตรวจสอบ โรงแรมที่พักอาศัย ชุมชน สถานประกอบการที่มีบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัย ตาม ม.37, ม.38 ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.คนเช้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในเขตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายของ ผบช.สตม.

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ ติดสถานีรถไฟบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบหญิงสาวต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธกำลังยืนแอบอยู่ด้านข้างร้านสะดวกซื้อ เมื่อเห็น จนท.พยายามจะเดินหนี จนท.จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นหญิงชาวกัมพูชาชื่อ น.ส.ไท สเรย์นอย อายุ 21 ปี ไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด

สอบถามเบื้องต้น บอกว่าทำงานอยู่ที่ กทม.และกำลังจะเดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่าได้รับข่าวสารทางโซเชียลว่าสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เรียกร้องให้แรงงานกัมพูชาในประเทศไทยรีบเดินทางกลับประเทศ เพื่อความปลอดภัยของชาวกัมพูชาในประเทศไทย ตนจึงรีบเดินทางมาชายแดนอรัญประเทศเพื่อกลับประเทศกัมพูชา

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าไม่มีหนังสือเดินทางจะเดินทางผ่านด่านพรมแดนออกไปกัมพูชาได้อย่างไร น.ส.ไท สเรย์นอย ไม่ยอมตอบและแสดงท่าทางมีพิรุธ คาดว่าเตรียมจะลักลอบเดินทางออกไปกัมพูชาตามทางช่องทางธรรมชาติ จึงควบคุมตัวมาที่สอบสวนที่อาคารที่พักรอการส่งกลับ ตม.จว.สระแก้ว 

และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากระบบไบโอเมตริค(ระบบตรวจอัตลักษณ์บุคคล) พบว่า น.ส.ไท สเรย์นอย ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ตาม มติ ครม.เมื่อวันที่5 ก.ค.65 และได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร ตาม มติ ครม.เมื่อ 7 ก.พ.66 และประกาศ มท.วันที่ 23 ก.พ.66 อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง 13ก.พ.67 ดังนั้น น.ส.ไท สเรย์นอย จึงอยู่เกินอนุญาต ถึง 508 วัน จึงควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

.012