ตำรวจ สภ.บ้านด่าน บุกรวบสองสามีภรรยาค้ายาเสพติด พบยาบ้าซุกซ่อนในบ้านพักกว่า 10,600 เม็ด ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างวางยาตามจุดนัดหมาย ได้ค่าจ้างครั้งละ 7,000 บาท หลังตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.อานนท์ เหล็กดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รองผู้กำกับการ (สืบสวน) และกำลังชุดสืบสวน ได้เข้าทำการจับกุม นายทองสุข หรือ "ใจบ้านกระชาย" วัย 33 ปี ภายในบ้านพัก หมู่ 9 บ้านกระชายใหญ่ ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์

จากการตรวจค้นภายในถังสี พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 5 มัด จำนวน 10,000 เม็ด และบรรจุในถุงซิปล็อกแบบสูญญากาศอีก 600 เม็ด รวมยาบ้าของกลางทั้งสิ้น 10,600 เม็ด นอกจากนี้ ยังตรวจค้น นางสาวกัญญา หรือ "แป้ง" วัย 25 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายใจ พบยาบ้าซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกงอีก 2 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยาพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สภ.บ้านด่าน

นายใจ ให้การว่า หลังจากพ้นโทษจากคดียาเสพติดก่อนหน้านี้ ตนเองเคยรับจ้างขับรถตู้นำเที่ยว แต่รายได้ไม่ดี จึงลาออกมาอยู่บ้านและตัดสินใจรับจ้างวางยาบ้าตามคำสั่งจากชาวลาว โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้ได้รับยาบ้ามา 15 มัด จำนวน 30,000 เม็ด จากบริเวณริมถนนสาย 219 บุรีรัมย์-สตึก หน้าสนามบินบุรีรัมย์ เพื่อนำมาเก็บพักและกระจายต่อ โดยได้รับค่าจ้างวางครั้งละ 7,000 บาท เขาระบุว่าจะนำไปวางแถวตัวเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งทำไปแล้ว 2 ครั้ง และขณะนี้เหลือยาบ้า 5 มัด

ส่วนยาบ้า 600 เม็ดที่เป็นของแถมจะเก็บไว้เสพกับภรรยา โดยรอคำสั่งจากชาวลาวให้วางยาที่จุดนัดหมายก่อนวันเข้าพรรษา นายใจยังกล่าวด้วยว่าแต่ละครั้งที่นำยาบ้าไปวางไว้ ตนจะนึกถึงหน้าพ่อแม่เสมอ แต่ก็ภาวนาไม่ให้ถูกจับ

จากการสอบสวนเพิ่มเติม นายใจให้ข้อมูลว่ายาบ้าที่นำไปส่งต่อนั้น จะจำหน่ายให้ลูกค้าขาจรเม็ดละ 50 บาท ส่วนลูกค้าขาประจำจะได้ราคา 4 เม็ด 100 บาท

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายใจและภรรยา ในความผิดฐาน "จำหน่ายโดยการมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน" และ "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย" เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะของทั้งคู่เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป