9 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา(ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ออกลาดตระเวนเข้ม 24 ชั่วโมง ป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออก เมืองโดยผิดกฎหมาย ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งบัญชีม้าลอบออกไปสแกนหน้า ตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณท้ายตลาดโรงเกลือ บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและจุดล่อแหลมของการลักลอบเข้า ออกเมืองโดยผิดกฏหมาย ตามนโยบายของ แม่ทัพภาคที่1 และ ผบ.ทบ.

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน เดินเท้าลักลอบมุดรั้วลวดหนามชายแดนจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย บริเวณท้ายตลาดโรงเกลือฯ จนท.จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้พบว่าเป็นชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ประกอบด้วยนายเซิง โซย อายุ 45 ปี ,นายจัน รี อายุ 36 ปี และ นางเทน ทาว อายุ 42 ปี ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด จึงควบคุมตัวมาซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบถามเบื้องต้นชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน รับว่าพวกตนเดิมทำงานเป็นลูกจ้างซักและซ่อมกระเป๋ามือสองอยู่ในตลาดโรงเกลือฯ ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท และหลังเกิดเหตุการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการควบคุมการเปิด ปิดด่านพรมแดนคลองลึกฯอีกทั้งสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยรีบเดินทางกลับกัมพูชาเพื่อความปลอดภัยโดยระบุว่าทางกัมพูชามีงานเตรียมรองรับแรงงานกัมพูชาไว้แล้ว ทำให้พวกตนเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2568 

โดยทั้ง 3 คน อ้างว่าได้รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลกัมพูชาจนหมดเงินแทบไม่มีจะกินกันแล้ว งานก็ไม่มีทำ จึงตัดสินใจชักชวนกันเดินทางกลับมาทำงานฝั่งไทยที่ตลาดโรงเกลือ อีกครั้ง แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านด่าน ตม.อรัญประเทศฯได้เนื่องจากทาง ตม.ปอยเปตฯไม่อนุญาตให้เข้ามด่านพรมแดนเข้าไทย จึงต้องติดต่อผู้นำพาชาวกัมพูชาเสียเงินคนละ 3,000 บาท พาลักลอบมุดรั้วตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติลอบเข้าไทย จนถูก ทหารพรานไทยจับกุมได้ในที่สุด จากนั้น จนท.จึงควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป