'กองทัพเรือ'จัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ปีที่ 132 วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้

'กองทัพเรือ'จัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ปีที่ 132 วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้

วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 10.18 น.

'กองทัพเรือ'จัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ปีที่ 132 วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้  

กองทัพเรือกำหนดจัดงานวันรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ประจำปี 2568 ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ป้อมพระจุลจอมเกล้า ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น.ประกอบด้วยพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีสดุดีวีรชนในเหตุการณ์ ร.ศ.112 พิธีสงฆ์ การจัดแสดงนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงนำพาประเทศไทยให้เป็นเอกราช และวีรกรรมอันหาญกล้าของวีรชนในเหตุการณ์ ร.ศ.112


สำหรับในช่วงเย็น กองทัพเรือร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ และโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการทางด้านประวัติศาสตร์ จัดการแสดงแสงเสียงสื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัล รำลึกเหตุการณ์ ร.ศ.112 ตอน "ปราการพระจุล จารึกคุณ มหาราช ร.ศ.112 เดอะมิวสิคัล" ระหว่างวันที่ 13 -16 กรกฎาคม 2568 วันละ 1 รอบ เวลา 18.30 น.โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดให้มีการสำรองที่นั่งล่วงหน้า ขณะนี้ที่นั่งสำรองเต็มแล้ว และได้มีการปิดระบบการลงทะเบียนสำรองที่นั่งล่วงหน้าแล้ว  แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความสนใจแต่ยังไม่ได้สำรองที่นั่ง

สามารถดิดต่อรับ "บัดร Walk-in" (วันละ 100 ใบ) ได้ที่จุดรับบัดร หน้างาน ตั้งแด่เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป 1 บัดร/1 คนในส่วนของผู้ที่สำรองที่นั่งล่วงหน้าไว้ กรุณามารับบัดรภายในเวลา 17.00 น.หากไม่มารับบัตรถามเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์

เมื่อรัตนโกสินทร์ศก 112 หรือ ร.ศ.112 ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยในยุคนั้นชาติตะวันตกได้เข้ามามีอิทธิพลสำคัญทางแถบเอเชีย ด้วยวัตถุประสงค์แสวงหาอาณานิคมจากประเทศต่าง ๆ เช่น ญวน เขมร ลาว ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ส่วนพม่าและมลายูตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

สยาม (ประเทศไทย) ถูกชาติมหาอำนาจฝรั่งเศสเข้ารุกราน ในวันที่ 13 กรกฎาคม พุทธศักราช 2436 โดยเรือรบฝรั่งเศส 2 ลำ คือ เรือสลุปแองคองสตังค์ และเรือปืนโกแมต ได้รุกล้ำสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา และได้เกิดการปะทะกับฝ่ายไทย ทั้งหมู่ปืนที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า และเรือรบไทยที่จอดอยู่เหนือป้อมพระจุลจอมเกล้า จำนวน 9 ลำ ผลปรากฏว่า เรือรบฝรั่งเศส สามารถตีฝ่าแนวป้องกันที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาได้จนถึงกรุงเทพฯ ส่วนฝ่ายไทยเรือได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม จำนวน 4 ลำ

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ไทยกับฝรั่งเศสได้ยุติการสู้รบกรณีพิพาท เรื่องเขตแดนทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ไทยเสียดินแดนบางส่วนเพื่อดำรงไว้ซึ่งเอกราชของไทย อันได้แก่ สปป.ลาว ปัจจุบัน ในพื้นที่เมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจันทน์ และอาณาเขตนครจำปาศักดิ์ตะวันออก และเกาะแก่งต่าง ๆ บริเวณริมแม่น้ำโขง คิดเป็นพื้นที่ 143,000 ตารางกิโลเมตร

จากเหตุการณ์ ร.ศ.112 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีวิสัยทัศน์พัฒนาการทหารเรือไทย วางรากฐานไว้ป้องกันภัยด้านทะเล ทรงส่งพระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ออกไปศึกษาวิชาการด้านการปกครอง การทหารบก การทหารเรือและอื่น ๆ ในทวีปยุโรป รวมทั้งทำการฝึกนายทหารเรือไทย เพื่อปฏิบัติงานแทนชาวต่างชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้กองทัพเรือ มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศตราบจนปัจจุบัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top