รวบหนุ่มสมุทรปราการขายบัญชีม้าให้แก๊งคอลฯลอบมุดรั้วชายแดนกลับไทย พบเอี่ยวคดีออนไลน์ถึง 17 คดี
13 กรกฎาคม 2568 ร.ท.สุวนัท เขียวตองอ่อน ผบ.ร้อย ทพ.1202(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1202) เผยว่า จากคำสั่งของ พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา((บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12(ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) นำกำลังพล ร้อย ทพ.1202 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกันออกลาดตะเวนและเฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวดซึ่งเป็นจุดล่อแหลมและเสี่ยงต่อการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ตามนโยบายซีลเข้มชายแดนของ แม่ทัพภาคที่1 และผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา
ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 12 ก.ค.68 จนท.ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ.1202 ชค.ทพ.12 ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยจำนวน 1 คน กำลังเดินเท้าลัดเลาะตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาแล้วลักลอบมุดรั้วลวดหนามหีบเพลง 3 ชั้น ที่กองกำลังบูรพานำมาขึงกั้นไว้ตลอดแนวชายแดน จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในฝั่งไทยที่ บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้พบว่าเป็นชายไทย ชื่อนายชนมภูมิ อายุ 37 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทาง จึงควบคุมตัวมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1202 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้นนายชนมภูมิ ถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้เดินทางไปกัมพูชา เพื่อเปิดบัญชีม้าและสแกนใบหน้า โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ จึงหลบหนีกลับประเทศไทย โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ได้เห็นโพสต์ รับซื้อขายบัญชีธนาคาร รับส่งเองแบบชนมือ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก หางาน จึงสนใจและติดต่อกับนายหน้าชาวไทยชื่อบัญชี ธนวัฒน์ อิทธิพล ซึ่งเสนอค่าตอบแทนสูงถึง 18,000 บาทต่อบัญชี แต่ต้องหาบัญชีได้ขั้นต่ำ 3 บัญชี ตนจึงตัดสินใจจะขายบัญชีธนาคารของตนเองจำนวน 3 บัญชี คือบัญชี กรุงไทย ,กสิกร และไทยพาณิชย์
โดย นายธนวัฒน์ ได้จัดการให้รถมารับจากบ้านที่สมุทรปราการแล้วพาไปข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติที่อรัญประเทศออกไปฝั่งปอยเปต โดยมีชายชาวจีน 2 คน คือ นายตงและนายเปา ทำหน้าที่ยึดโทรศัพท์มือถือ และให้สแกนใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมกับบัญชีธนาคาร 3-4 ครั้งต่อบัญชี โดยอ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทน 1,000 บาทต่อครั้ง
หลังจากถูกควบคุมตัวและให้สแกนหน้าหลายครั้ง โดยไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนเลย จนกระทั่งบัญชีธนาคารไม่สามารถทำธุรกรรมได้อีก ตนจึงตัดสินใจหลบหนี โดยว่าจ้างชายไทยชื่อ บอย ที่ทำงานในปอยเปต ให้พาตนเองกลับประเทศไทย โดยตนให้มารดาโอนเงินค่าเดินทาง 10,000 บาท ให้กับนายปัญญา วงศ์เจริญใหญ่ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำพา ก่อนที่จะถูกนายบอยฯ ชี้ช่องทางธรรมชาติให้เดินเท้าลัดเลาะและปีนข้ามลวดหนามกลับเข้าสู่ประเทศไทย จนกระทั่งมาถูกทหารพรานจับกุมได้
ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก ได้ตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลของ สตช.พบว่าบัญชีธนาคารของนายชนมภูมิ มีประวัติถูกแจ้งความออนไลด์เกี่ยวกับคดีการโอนเงินที่ถูกหลอกลวงมากถึง 17 คดี จึงควบคุมตัวส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบสวนขยายผลเชื่อมโยงกับการกระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ที่ถูกแจ้งความทางออนไลน์ในทุกคดี.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี