นครพนมสถานการณ์น้ำ ไม่ถึงขั้นวิกฤต ประตูระบายยังรองรับได้เยอะ ชาวปากบังหมู่บ้านท่วมซ้ำซาก เชื่อน้ำไม่ท่วมแน่นอน

13 กรกฎาคม 2568 กรณี จังหวัดนครพนมได้ประกาศให้พื้นที่ใน 7 อำเภอเป็นเขตประสบสาธารณภัยกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ภายหลังเกิดสถานการณ์น้ำหลาก และน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชนในหลายพื้นที่ประกอบด้วย อำเภอนาหว้า นาแก วังยาง โพนสวรรค์ ศรีสงคราม เรณูนคร และอำเภอปลาปาก โดยประชาชนได้รับผลกระทบ 2,648 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วเกือบ 17,000 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา กบ เสียหาย 150 บ่อ ถนนที่ใช้สัญจรไปทำการเกษตรเสียหาย 2 สาย และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำโขง มีแนวโน้มหนุนสูงระหว่างวันที่ 6-12 กรกฎาคม 2568 ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น

ล่าสุดวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 สถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม ได้รายงานสภาพอากาศประจำวัน ว่ามีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน จึงคาดการณ์ว่าบริเวณภาคอีสานตอนบน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักเป็นบางแห่ง ในพื้นที่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรฯ สกลนคร และนครพนม ในส่วนของ จ.นครพนม ระดับแม่น้ำโขงอยู่ที่ 8.18 เมตร ลดลงจากวานนี้(12 กค.) 2 เซนติเมตร โดยระดับจุดวิกฤตอยู่ที่ 12 เมตร

ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 68 มีรายงานว่าหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน มีความจุในการกักเก็บน้ำประมาณ 267 ล้านลูกบาศก์เมตร และจ่อจะล้นสปิลเวย์ ชลประทานจึงเร่งระบายลงลำน้ำก่ำ เป็นลำน้ำสาขาสายหนึ่งของหนองหาร นอกจากนี้ยังมีลำน้ำบังซึ่งเป็นสาขาของลำน้ำก่ำอีกแห่ง ที่สามารถไหลระบายลงแม่น้ำโขง ป้องกันน้ำเอ่อท่วมเมืองสกลนคร

ทั้งนี้ บ้านปากบัง หมู่ 2 ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นจุดรวม 2 สายน้ำ คือน้ำก่ำ และ น้ำบัง ที่จะไหลมาบรรจบกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยบ้านปากบังเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ 2 ปีซ้อน คือ ปี 2560-61 ทั้งหมู่บ้านจมน้ำเป็นแรมเดือน ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ไม่มีทั้งไฟฟ้าใช้ และน้ำอุปโภคบริโภค ไร่นาจมใต้น้ำเสียหาย 100 % ดังนั้นถ้าเกิดวิกฤตน้ำท่วม บ้านปากบังจะต้องได้รับผลกระทบก่อนใคร

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ได้พบกับ นายเชิญ อินน้อย อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 67 หมู่ 2 บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้ให้ข้อมูลว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านจากปีที่ผ่านมา มวลน้ำจากหนองหารจะไหลมาถึงแล้วในราวปลายกรกฎาคม สำหรับปี 2568 นี้ ส่วนตัวยังเชื่อว่าไม่รุนแรงเท่าปี 2560 ยิ่งฝนตกลักษณะนี้ไม่น่าเกิดวิกฤต รวมทั้งหลังน้ำท่วมใหญ่ปี 2560 ทางหน่วยงานราชการได้มาสร้างตลิ่งคอนกรีตให้มีความมั่นคงและสูงขึ้น ปรับปรุงทำถนนปูลาดรอบสองลำน้ำ ทำให้การระบายน้ำดีขึ้น ดูจากสภาพอากาศแล้วปริมาณน้ำยังห่างตลิ่งอีกเยอะ มั่นใจว่าปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอน

ซึ่งจากการสำรวจเส้นทางเดินน้ำจากหนองหาร ถึงประตูระบายน้ำสุรัสวดี (ปตร.ฯ) ต.นาตงวัฒนา อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมประมง น้ำยังไม่เกินปริมาณความจุ เมื่อน้ำเดินทางไปถึงประตูระบายน้ำนาคู่ บ้านนาคู่ หมู่ 8 ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีความจุที่ระดับเก็บกัก 8.75 ล้านลูกบาศก์เมตร พบว่ามีน้ำเก็บกักอยู่ที่ 48 % ยังสามารถรองรับมวลน้ำได้อีกจำนวนมาก จากนั้นน้ำก็จะไหลไปยังประตูระบายน้ำธรนิศนฤมิต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง โดยมีระยะเส้นทางน้ำจากหนองหารถึงประตูระบายน้ำธรนิศ รวมทั้งสิ้น 123 กิโลเมตร

มีข้อมูลจาก นายเจษฎา พวงผกา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทาน ว่า ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ระดับน้ำในปัจจุบันอยู่ที่ 26.5 % ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากวันที่ผ่านมา 5 เซนติเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ปตร.ธรนิศ ได้เปิดบานอยู่ที่ 2.40 เมตรทั้ง 4 บาน อัตราการระบาย 210 ลบ.ม/วินาที สามารถระบายน้ำได้ 18 ล้าน ลบ.เมตร/วัน ทั้งนี้ ปตร.ธรนิศยังสามารถรับมวลน้ำได้อีก 75% ของปริมาณที่รับได้ และยังไม่ถึงขั้นวิกฤตอย่างที่มีการประโคมข่าวไปก่อนหน้านี้.

012