เข้าสู่วันที่ 20 มาตรการคุมด่านชายแดนตราด ตลาดค้าชายแดนริมทะเล เหลือเปิดแค่ร้านเดียว,เจ้าของ เผย เหลือร้านเดียวก็เปิด บางวันขายได้บางไม่ได้บาง ยอมรับความมั่นคงต้องมาก่อน
วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เข้าสู่วันที่ 20 ของมาตรการคุมเข้มจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด(กป.จต.) ห้ามประชาชนชาวไทย ประชาชนชาวกัมพูชา นักท่องเที่ยว รถขนส่งสินค้าผ่านแดน และห้ามค้าขาย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดการค้าชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เงียบเหงา แม้ว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายให้ชาวกัมพูชา สามารถข้ามแดนมายังฝั่งประเทศไทยได้ โดยใช้เอกสารบอเดอร์พาสหรือพาสปอต แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้การค้าชายแดนกลับมาคึกคักเหมือนเดิมแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่ตลาดค้าชายแดน บริเวณริมทะเล ซึ่งมีร้านค้ายอย่างน้อย 20 ร้าน ทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ พบว่า มีร้านค้า เพียงร้านเดียวที่ยังคงเปิดขายสินค้าตามปกติ แม้ว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวก็ตาม
นายพิรมย์ อายุ 64 ปี เจ้าของร้านค้า เปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่มีคนมาเที่ยวเลย ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ยังมีนักท่องเที่ยวและคนเข้ามาจับจ่ายซื้อของอยู่เรื่อย ๆ แต่พอปิดด่าน ก็เงียบสนิท กลายเป็นศูนย์ สาเหตุที่ยังเปิดร้านอยู่ เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ตรงนี้ ถึงไม่มีลูกค้า แต่ก็ยังต้องเปิดร้าน ถ้าปิดไปบ้านก็ยิ่งเงียบเหงา เราเคยค้าขายมาก่อน แม้ตอนนี้ด่านจะปิด ก็ยังเปิดไว้ แม้จะขายไม่ได้เลย บางวันไม่มีรายได้สักบาท เพราะไม่มีคนเดินผ่าน ไม่มีใครเข้ามาเลยจริง ๆ
“ตอนนี้เราก็ต้องยอมรับสภาพ อยากให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายไปในทางที่ดี เพราะปัญหานี้กระทบมาก โดยเฉพาะกับคนชายแดนอย่างเรา ลำบากจริง ๆ มันพูดยาก เพราะเราก็ต้องยึดหลักในการรักษาความมั่นคงของประเทศก่อน เรื่องค้าขายถือเป็นเรื่องรอง แต่ถ้าผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ก็ถือว่าโชคดีแล้ว เพราะถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ ปัญหาจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีก ไม่อยากกลับไปอยู่ในสภาพแบบตอนอายุ 10 ขวบ ที่ต้องกินข้าวในหลุมหลบภัยเลย ปัญหาแบบนี้อยากให้จบ อย่าให้เกิดซ้ำอีก” นายพิรมย์ กล่าว
นายพิรมย์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้โซนริมทะเลมีร้านของตนเองมีเพียงร้านของตนที่ยังเปิดอยู่ร้านเดียว ร้านตามซอกซอย หรือทางขึ้นไปด่าน รวม ๆ แล้วอย่างน้อย 20 ร้าน หากรวมทั้งตลาดชายแดน ก็มีมากกว่า 50 ร้าน รวมร้านแผงลอย หลายร้านปิดไป เพราะลูกค้าหายหมด เมื่อเทียบกับตอนปี 2554 เหตุการณ์เขาพระวิหาร ก็ยังไม่หนักขนาดนี้ เพราะตอนนั้นยังไม่ถึงขั้นปิดด่าน แต่ครั้งนี้สถานการณ์เศรษฐกิจมันหนักสุด ค้าขายไม่ได้เลย”
นายพิรมย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม อยากให้มีการเปิดด่าน ค้าขายและการท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งโดยเร็ว หวังว่าสถานการณ์จะไม่แย่ลงไปกว่านี้ และไม่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอีกในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี