สั่งจัดระเบียบ
นทท.ตาเมือนธม
สกัดผู้ไม่หวังดี
ก่อเหตุป่วนซ้ำ

ทบ.แถลงผลสอบปมนทท.เขมรป่วนทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม ชี้เป็นเพียงข้อสังเกต กัมพูชาสร้างสถานการณ์ หวังเช็คกำลังฝ่ายไทย ส่วนนทท.สาวต้นเรื่องยังไม่พบข้อมูลเป็นทหาร ด้านมทภ.2 สั่งจัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม เผยผลหารือ “พล.ต.เนี๊ยะ” ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชา ตำหนิหญิงกัมพูชา และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่น ไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ทราบว่ามีการยั่วยุ จึงสั่งเจ้าหน้าที่ไทยระวังอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์แบบนี้ทำให้เกิดการปะทะกัน เกิดความรุนแรง และจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ ซึ่งกำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธมเป็นอำนาจควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2
รบ.ไม่พอใจเขมร-อย่าเชื่อฮุนเซนไร้เครดิต

“รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และทางการทูตรัฐมนตรีต่างประเทศก็ดำเนินการแต่ละขั้นตอน พิจารณาเรียกทูต กลับ ก็เป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดในทาง การทูต ฉะนั้น ตรงนี้อย่าตกอยู่ในเกมของเขา และอย่าไปฟัง เชื่อถือฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชามาก เพราะไม่ใช่แค่ประเทศไทย ในต่างประเทศก็ไม่มีเครดิต ในการประชุมนานาชาติที่ผ่านมาได้รับรายงานจากกระทรวงต่างประเทศว่า ไม่มีการหยิบยกเรื่องกัมพูชาขึ้นมา ฉะนั้นต่างประเทศไม่ได้สนใจเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มภาคีต่างๆ ไม่มีเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในวาระ แสดงว่าเขาไม่ได้เชื่อถือ” นายภูมิธรรมกล่าว

และย้ำว่า อะไรที่ฮุนเซน พูดมา จริงๆ ก็ไม่ใช่ผู้นำกัมพูชาในทางการ ไม่เกี่ยวข้องกับ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ฮุนเซน เป็นเพียงคนหนึ่ง ที่มีตำแหน่งประธานวุฒิสภา ไม่ได้มีอำนาจเจรจาพูดคุย ฮุนเซน ถือเป็นคนรอบข้างที่มีอิทธิพลจริง อยากแก้ปัญหา แต่ถึงเวลาก็ไม่ใช่คนที่จะสรุปอะไรได้ เว้นแต่ไปใช้อิทธิพลคุยกับนายกฯของประเทศเขา อยากให้ประชาชนอดทนอดกลั้น เราพยายามจัดการปัญหานี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบกชี้แจงกรณีเกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวเขมรกับทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอชี้แจงว่า เหตุเกิดจาก นักท่องเที่ยวหญิงชาวเขมรแสดงความไม่พอใจและกล่าวตำหนิทหารไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณปราสาทตาเมือนธม เมื่อทหารทั้งสองประเทศทราบเรื่องก็มาร่วมไกล่เกลี่ยช่วยระงับเหตุ ระหว่างนั้นฝ่ายไทยเชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาท ป้องกันเหตุลุกลามเพื่อความปลอดภัย หลังเจรจาได้ทำความเข้าใจร่วมกันและสถานการณ์ยุติลงด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตกัมพูชา สร้างสถานการณ์เพื่อตรวจสอบกำลังทหารฝ่ายไทย พันเอกริชฌา กล่าวว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ ถือเป็นข้อสังเกต อาจยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งฝ่ายไทยระวังมาตลอด การตรวจสอบกำลัง และการประเมินท่าทีของแต่ละฝ่าย ด้านการทหารถือเป็นการปฏิบัติโดยปกติของหน่วยข่าวกรองอยู่แล้ว ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีการต่างๆ ส่วนการตรวจสอบนักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเขมรเป็นทหารหรือไม่นั้น ปัจจุบันยังตรวจสอบไม่พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตามข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีผู้หญิงชาวเขมรมาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทย พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) สั่งการ ให้จัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 ได้ข้อสรุป 3 ประกาณคือ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นกันถ้านักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหาให้ฝ่ายไทยแจ้งกัมพูชาเพื่อให้นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ ที่อยู่ 7 คน เป็นผู้แก้ปัญหา ไม่ต้องเรียกกำลังชุดอื่นมาเพิ่มเติม ป้องกันการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย 3.ขอให้ทั้งสองฝ่ายคัดกรองนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นมาบนปราสาทตาเมือนธม

ด้านพลโทบุญสินเผยว่า ทหารไทยกับเขมรหารือการจัดระเบียบท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธมใหม่ ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ไม่ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ไม่ให้ทหารกองหนุนซึ่งเป็นหน่วยรบ เข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด ให้เป็นหน้าที่ของชุดประสานงานชายแดนทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ดำเนินการ ถ้านักท่องเที่ยวฝ่ายไหนก่อเหตุ ให้ฝ่ายนั้นเป็นคนนำตัวออกนอกพื้นที่ ป้องกันเหตุชุลมุนเหมือนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่มีหน่วยกำลังรบทั้งไทยและกัมพูชา มะรุมมะตุ้มกัน

ส่วนกรณีพล.อ. เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เรียกร้องให้มีการขอโทษเป็นทางการ กรณีอดีตทหารพรานชกหน้าทหารกัมพูชานั้น ทางการไทยได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุไปแล้ว และเจ้าตัวรับทราบข้อหาแล้ว เช่นกัน ผู้นำกัมพูชา ก็ควรขอโทษและควรตำหนิ นักท่องเที่ยวหญิงกัมพูชาที่มาสร้างความวุ่นวายและชี้หน้าด่าทอทหารไทยในเขตประเทศไทย รวมถึงดำเนินการกรณีทหารกัมพูชา
ผลักอกทหารไทยจนล้มเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวกัมพูชารายงานว่า พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา เรียกร้องให้อดีตทหารพรานไทย ซึ่งก่อเหตุชกทหารเขมร บริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมามาขอโทษอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นแนวทางเหมาะสมที่สุดในการคลี่คลายสถานการณ์ แม้มีรายงานผู้ก่อเหตุได้ขอโทษแบบส่วนตัวกับทหารกัมพูชาแล้วก็ตาม พร้อมย้ำว่า เขมรต้องการแก้ไขข้อพิพาทกับไทยด้วยสันติวิธี โดยเสนอให้ศาลโลกวินิจฉัยสถานะของปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบก นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ไทย เปิดจุดผ่านแดนทุกแห่งที่ติดกับเขมร โดยยืนยันว่าหากไทยดำเนินการตาม เขมรพร้อมตอบสนองทันที