ด่านกัมพูชาไม่เปิดหลังไทยผ่อนปรนยื่นเสนอเปิดเวลาเดิม6โมงถึง4ทุ่มทุกแห่ง ขณะท่าเรือส่งออกคลองใหญ่แน่นรถตู้คอนเทนเนอร์รอ 2-3 วันส่งเข้ากัมพูชา อ.คลองใหญ่ จ.ตราด/เวลา 08.00
วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ทหารนาวิกโยธินที่ 182 หาดเล็ก ได้ทำการเปิดด่านตามคำสั่งของกองกำลังป้องกันจันทบุรี-ตราด ที่ผ่อนผันให้รถยนต์บรรทุกสินค้ามและรถตู้คอนเทนเนอร์สามารถส่งเข้าไปยังฝั่งกัมพูชาได้ แต่ฝั่งกัมพูชาที่ ด่านถาวรบ้านจามเยี่ยม อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชายังไม่อนุญาตให้รถยนต์บรรทุกสินค้าเข้าไปยังฝั่งกัมพูชา เนื่องจากต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลกลางก่อนว่าจะมีนโยบายอย่างไร
ผู้ประกอบการค้าชายแดนกัมพูชารายหนึ่ง กล่าวว่า แม้ทางฝั่งไทยจะผ่อนปรนแล้ว แต่ทางฝั่งกัมพูชาต้องการให้เปิดในเวลาเดิมคือ 06.00-22.00 น.และเปิดพร้อมกันทั้งหมดตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการออกเงื่อนไขลักษณะนี้ไม่ส่งผลดีต่อการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศและผู้ประกอบการค้าด้วยกัน ทำให้การค้าขายชายแดนที่ตลาดหาดเช็คยังซบเซาต่อไป ตอนนี้ร้านค้าขายปิดเพิ่มขึ้น ทั้งร้านกาแฟดังก็ต้องปิด รถโดยสารหาดเล็กตราดก็หยุดเที่ยวเดินทางแล้ว และที่ส่วนบริการศุลกากร ด่านศุลกากรคลองใหญ่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ที่รถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ต้องมาทำเอกสารส่งออกก็มีรถบรรทุกจำนวนกว่า 30 คันรอการทำเอกสารส่งออกอยู่ ทำให้คนขับรถบรรทุกต้องอคอยทั้งเอกสารและรอคิวการลงเรือขนส่ง ซึ่งต้องใช้เวลานาน 1-2 วัน เป็น 2-3 วัน ทำให้เสียรายได้ไปมาก
นายภานุพงษ์ คนขับรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ส่งสินค้าจากแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า การปิดด่านและผ่อนปรนด่านชั่วคราวเป็นเรื่องดี แต่การขนส่งสินค้าทางบกขณะนี้ฝั่งกัมพูชายังไมรอนุญาตให้เข้าไป แต่สามารถขนส่งทางน้ำแห่งเดียวคือที่อำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด แม้จะสามารถส่งจากที่อื่นๆได้ แต่ราคาค่าขนส่งจะแพงกว่า ผู้ประกอบการขนส่งจึงนิยมมาทางนี้ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ ต้องเสียเวลารอคอยลงเรือขนส่งที่ท่าเรือนานกว่าเดิม จาก 1-2 วันที่เข้าไปทางบกและกลับมาได้ภายใน 6-7 ชม.และกลับบริษัทได้ใน 1-2 วัน กลับต้องเสียเวลาเพิ่มเป็น 2-3 วัน ทำให้ต้องเสียหายได้จากเปอร์เซนต์ที่นายจ้างจะหักให้ 10 %ต่อเที่ยว ส่งผลรายได้หายไปครึ่งหนึ่ง
ขณะที่บริเวณทางเข้าท่าเรือ ส.กฤตวรรณ ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด คราคร่ำไปด้วยรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์กว่า 100 คัน ที่รอการนำตู้คอนเทรนเนอร์ลงจากรถยนต์บรรทุกเพื่อลงเรือขนส่งสินค้า ซึ่งแต่ละลำสามารถบรรทุกได้ 16-24 ตู้/ลำ จากจำนวน 7 ลำที่มี ทำให้ไม่สามารถรองรับตู้คอนเทรนเนอร์ที่มีกว่า 100 ตู้ได้
นายปิยะวุฒิ ประสิทธิเวช ลูกชายนางสำราญ ประสิทธิเวช เจ้าของท่าเรือ กล่าวว่า รถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ที่มีมากกว่า 120-150 ตู้เข้ามาส่งสินค้าลงเรือขนส่งที่มี 7 ลำ เพื่อลำเลียงไปขึ้นที่ท่าเรือสีหนุวิล ในจังหวัดกัมโปงโสม ซึ่งใช้เวลา 1 วัน และกลับอีกเกือบ 1 วัน ซึ่งช่วงนี้มีลมพายุ ทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าทางทะเลได้เร็วเหมือนก่อน และรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ก็เพิ่มขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาการสั่งซื้อสินค้าผ่านแดนจากต่างประเทศเพื่อส่งไปยังกัมพูชามีมากและหยุดส่งไประยะหนึ่ง ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งดำเนินการให้เร็ว ทำให้การขนส่งสินค้าต้องแออัดไปในระยะนี้ และสินค้าส่วนใหญ่ก็มาจากประเทศจีนเป็นหลัก ของไทยก็มีบ้าง แต่ยังไม่มากนัก
ด้านนายนิโรต นิรังกูร หัวหน้าชุด ด่านศุลกากรคลองใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากมีการผ่อนปรนให้สินค้าส่งไปยังกัมพูชาได้โดยใช้ทางน้ำทำให้มีรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์จากทั่วประเทศมาส่งสินค้าที่ท่าเรือในอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งเป็นท่าเรือเดียวที่มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรคลองใหญ่อนุญาตอยู่ แต่หากท่าเรือชลาลัย หรือท่าเรืออื่นๆจะดำเนินการต้องขออนุญาตเป็นครั้งคราวไป ซึ่งปัจจุบันรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ต้องเข้าไปที่ส่วนบริการ ด่านศุลกากรคลองใหญ่ เพื่อทำเอกสารส่งออกและเอกซเรย์ผ่านเครื่องก่อนจึงนำสินค้ามาส่งที่ท่าเรือได้ ซึ่งไดัเปิดมาแล้ว 7 วัน พบว่า มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 10 ล้านบาท/วัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากฝั่งกัมพูชายังไม่อนุญาตให้รถยนต์บรรทุกสินค้าเข้าไปยังกัมพูชาในช่วงนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี