รวบแก๊งขโมยรถหลวงพ่อ! ตำรวจบุรีรัมย์ตามรอยกล้องวงจรปิด-ไล่ล่ากลางป่าอ้อย ปีนต้นข่อยหนีแต่ไม่รอด
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อมาสด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ผย 3455 นครราชสีมา ของ พระอาจารย์คำมี ธัมมทาโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกใหญ่ หมู่ที่ 1 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในเบื้องต้น การติดตามคนร้ายเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ปรากฏใบหน้าของผู้ก่อเหตุขณะอยู่ในรถ แม้จะมีภาพการขับขี่รถหลบหนีก็ตาม ทางตำรวจ สภ.คูเมือง จึงได้แจ้งข้อมูลลักษณะรถและหมายเลขทะเบียนไปยังตำรวจทุกสังกัดและประชาชนทั่วไปเพื่อขอความร่วมมือ
ล่าสุด พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงศ์ รอดนวล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูเมือง และ พ.ต.ท.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สารวัตร (สืบสวน) สภ.คูเมือง เร่งรัดติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด
กระทั่งชุดสืบสวนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวขับขี่เข้ามาในหมู่บ้าน จึงพยายามเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวกลับขับแหกฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านหลบหนีเข้าไปยังถนนในป่าอ้อย บ้านสามศิลา หมู่ที่ 16 ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ชุดจับกุมจึงขับรถไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิดเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร จนกระทั่งคนร้ายจนมุมและสามารถจับกุมตัวได้ 1 คน ทราบชื่อคือ นายวีระวุฒิ อายุ 20 ปี อยู่หมู่ที่ 18 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนได้ในทันที คือ นายชานนท์ หรือนนท์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และ นางสาวจุฑารัตน์ แฟนสาวของนายชานนท์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง เนื่องจากทั้งสองได้วิ่งหนีและหลบซ่อนตัวอยู่ในพงป่าอ้อย หลังจากรถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำจากการขับหนี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นชายหญิงสองคนปีนอยู่บนต้นข่อย จึงเรียกให้ลงมาและทราบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยรถของหลวงพ่อดังกล่าว
จากการสอบถาม นายชานนท์ หรือนนท์ ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุได้เดินเข้าไปในวัด และเห็นรถกระบะจอดอยู่ จึงเปิดประตูเพื่อค้นดูของมีค่า แต่เมื่อเห็นกุญแจรถเสียบคาอยู่ จึงตัดสินใจขโมยรถไปโดยที่ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน หลังจากขโมยเสร็จก็ขับรถมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ เพื่อหลบหนี ส่วนเงินจำนวนประมาณ 30,000 บาทที่อยู่ในรถ ได้นำไปใช้ซื้อของ เสื้อผ้า และเติมน้ำมันจนหมดเกลี้ยง
นายชานนท์ยังเล่าอีกว่า หลังจากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวกลับมายังบ้าน เพื่อหวังจะกลับมาเอาเสื้อผ้าและไปหาแฟนที่บ้าน แต่ชาวบ้านและตำรวจได้ตามมาพบจนต้องขับหนี และรถเกิดเสียหลักชนต้นไม้พลิกคว่ำ ตนจึงพาแฟนสาวปีนขึ้นต้นข่อยเพื่อซ่อนตัวในป่าอ้อย แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พระอาจารย์คำมี ธัมมทาโร เจ้าของรถ เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ จึงได้เดินทางมาดูรถที่ สภ.คูเมือง พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วให้อภัยคนก่อเหตุ แต่ในส่วนของกระบวนการทางกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน
เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งข้อหานายชานนท์ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จากการตรวจสอบประวัติ นายชานนท์ยังรับสารภาพว่าเคยลักรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์มาแล้วอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี