ตม.หนองคาย บุกค้นบ้านสองหลัง พบชาวเวียดนาม 9 ราย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายรายการ คาดเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงออนไลน์ชาวเวียดนามด้วยกัน แจ้งข้อหาทำงานไม่ได้รับอนุญาตก่อนขยายผล
เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ของวันนี้ (22 ก.ค. 68) พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย (ผกก.ตม.หนองคาย) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธียาฌพัทย์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.หนองคาย และ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สารวัตร ตม.หนองคาย ประสานงานกับ พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ (ผกก.สภ.ท่าบ่อ) และ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย (ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย) นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง พร้อมหมายค้นจากศาลจังหวัดหนองคาย เข้าตรวจค้นบ้าน 2 หลังในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
การตรวจค้นบ้านหลังแรก เลขที่ 888/17 หมู่ 9 ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว พบชายหญิงกลุ่มหนึ่งพร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสินค้าหลายรายการวางอยู่บนโต๊ะกลางบ้าน ส่วนการตรวจค้นบ้านหลังที่สอง เลขที่ 888/30 หมู่ 9 ซึ่งเป็นบ้านสองชั้น บริเวณชั้นสองพบห้องหนึ่งถูกจัดเป็นห้องทำงาน มีคอมพิวเตอร์วางเรียงรายอยู่ 5-6 เครื่อง และยังพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบุคคลทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 2 คน ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม แม้จะมีหนังสือเดินทางถูกต้องและมีการเข้าออกประเทศไทยจากเวียดนามผ่านลาว ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย บ่อยครั้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นมา
จากการสอบถาม นายกว่าง เหงียน วัน อายุ 33 ปี ผ่านล่ามภาษาเวียดนาม ทราบว่า ตนเป็นผู้ชักชวนเพื่อน ๆ ชาวฮานอย ประเทศเวียดนาม ให้เดินทางมาทำงานในประเทศไทย โดยตนเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้ และเป็นคนเช่าบ้านทั้งสองหลังให้เพื่อน ๆ พักอาศัย โดยจะมี "หัวหน้า" ที่ประเทศเวียดนามส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าเช่าบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต และได้รับเงินส่วนตัวเดือนละ 20,000 บาท
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เบื้องต้น พบว่ามีลักษณะการใช้งานที่เข้าข่ายขบวนการหลอกลวง โดยมีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์, ทัวร์ท่องเที่ยว, แพ็กเกจจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรม อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์ทั้งหมดส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าเข้าข่ายขบวนการหลอกลวงลักษณะใด เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นี่อาจเป็นขบวนการหลอกลวงที่มีฐานหลักอยู่ในประเทศเวียดนาม แล้วกระจายทีมงานมาตั้งฐานปฏิบัติการในต่างประเทศ เพื่อเชื่อมสัญญาณกลับไปยังเวียดนาม โดยมีเป้าหมายในการหลอกลวงเหยื่อชาวเวียดนามด้วยกันให้หลงเชื่อหรือเล่นพนัน มีการโอนเงินภายในประเทศเวียดนามและมีการแบ่งส่วนแบ่งก่อนจะโอนให้ทีมงานในประเทศไทย
พ.ต.ท.ธียาฌพัทย์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "เป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต" เนื่องจากหนังสือเดินทางของชาวเวียดนามทั้งหมดระบุวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว แต่กลับมาลักลอบทำงาน ส่วนเจ้าของบ้านทั้งสองหลังมีความผิดฐาน "ให้ที่พักพิงชาวต่างด้าวโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ" หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดเพื่อเชื่อมโยงความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี