‘แนวหลัง’ก็ไม่ถอย!ชาวบ้านศรีสะเกษสงสารทหาร ลั่นเราถูกกระทำ ซัดกันสักตั้งให้รู้กันไป
24 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า จากกรณีที่มีคำสั่งกองทัพภาคที่ 2 (เฉพาะ) เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ชายแดนช่องบก และช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเกิดขึ้น ภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ไร้มนุษยธรรม และละเมิดอธิปไตย ชัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพ และเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ
กองทัพภาคที่ 2 จึงกำหนดให้ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีมาตรการ ดังนี้ 1 งดการผ่านเข้า - ออก ของยานพาหนะทุกประเภท 2 งดการเดินทางผ่านเข้า -.ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และ 3 งดการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ของนักท่องเที่ยว เพื่อปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย มิให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในลักษณะ เช่นนี้อีกต่อไป และแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตย และขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ด่านถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าบรรยากาศที่ด่านเงียบเหงา ประตูด่านฝั่งไทยไม่มีการเปิดแต่อย่างใด ส่วนทางฝั่งกัมพูชา ด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประตูก็ไม่ได้มีการเปิดแต่อย่างใดเช่นกัน โดยเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวพบว่าเจ้าหน้าที่พนักงานที่ด่านถาวรช่องสะงำ ได้มีการทยอยขนข้าวของส่วนตัวขึ้นรถเตรียมพร้อมออกจากด่าน หลังทหารในพื้นที่ให้อพยพออกจากด่านไปก่อน หลังมีข่าวออกมาว่ามีเหตุยิงปะทะในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามชาวบ้านรายหนึ่ง ในหมู่บ้านแซร์ไปร์ ที่ติดกับกัมพูชาที่สุด ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าที่ขายของในหมู่บ้านติดชายแดนช่องสะงำศรีสะเกษ ตอนนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังใช้ชีวิตปกติตนยังพูดกับลูกค้าและคนในหมู่บ้านถึงเรื่องทหารเหยียบกับระเบิดสถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ตนก็รู้สึกเป็นกังวลนิดหน่อยกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์สู้รบกันจริงตนก็พร้อมเพราะมีการเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว
“ตอนนี้ตนรู้สึกสงสารทหารที่ต้องไปประสบเหตุเหยียบกับระเบิดตนไม่ชอบและไม่พอใจการกระทำของทหารฝังนั่นมาก ตนกับชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านยังคิดอยู่ว่าทำไมทางการถึงไม่ทำอะไรทำไมถึงปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ ปล่อยให้ทหารต้องมาเหยียบกับระเบิดเป็นรอบที่ 2 เราอยู่ตรงนี้เราพร้อมแล้วกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพราะมันเกินความอดทนจะเกิดอะไรก็ให้มันเกิด อยากให้เอาสักตั้งนึงให้เขารู้บ้าง ในความคิดชาวบ้านส่วนมากจะเป็นอย่างนี้ พวกเราไม่อยากจะทนแล้วเพราะเราถูกกระทำและโดนกดดันมามากพอแล้ว ถ้าเราไม่ทำอะไรก็ยิ่งได้ใจสักวันก็ต้องกลับมาทำอีก” ชาวบ้าน กล่าว ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี