ตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบสาวใหญ่รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งหลอกเงินกู้ออนไลน์ เหยื่อสูญเงินร่วมแสนบาท

วันนี้ (25 ก.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์ พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.อัมภาวรรณ อายุ 36 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.649/2568  ลงวันที่ 15 ก.ค.2568 ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง กระทำโดยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้ที่หน้าบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 8 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี

การจับกุมดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2567 ขณะที่ผู้เสียหายได้ขายของอยู่ที่ร้านขายอาหารตามสั่ง ที่บริษัทในพื้นที่ ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้พบเห็นโฆษณาประกาศเชิญชวนให้กู้เงินออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก จึงสนใจและได้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ ที่มีการแนบไว้ จากนั้นได้ปรากฏบัญชีผู้ใช้ไลน์ จึงสอบถามพูดคุย เพื่อกู้เงิน โดยมีข้อความอัตโนมัติจากบัญชีผู้ใช้ไลน์ดังกล่าว ส่งมาหาผู้เสียหายแจ้งว่า “สมัครสินเชื่อวันนี้ ฟรีค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เช็คเครดิตบูโร ยื่นกู้สูงสุดถึง 3,000,000 บาท หากสนใจกด 2 หากต้องการยื่นสินเชื่อกด 3 อนุมัติผ่านรับยอดสินเชื่อทันที” ผู้เสียหายสนใจจึงกด 3 เพื่อยื่นสินเชื่อวงเงิน 50,000 บาท ผ่อนส่งเดือนละ 875 บาท รวม 60 งวด

ต่อมาคนร้ายได้ส่งลิงก์ เพื่อให้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนและรอการอนุมัติ ซึ่งคนร้ายให้ผู้เสียหายติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน โดยให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ และแจ้งชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์  ปรากฏบัญชีไลน์ทางการและได้พูดคุยกัน ผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวแจ้งว่า “อนุมัติการกู้เงิน” และได้ส่งลิงก์มาเพื่อให้ผู้เสียหายตรวจสอบยอดเงิน เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบพบว่ามีเงินอยู่จริง และผู้เสียหายเตรียมดำเนินการถอนเงินตามขั้นตอนที่คนร้ายแจ้ง ซึ่งคนร้ายแจ้งว่า วงเงินที่ผู้เสียหายถอนถูกอายัดทั้งหมด เนื่องจากผู้เสียหายได้กรอกข้อมูลเลขบัญชีผิด ทำให้ระบบอายัดเงิน ไม่สามารถโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางได้ จึงให้ผู้เสียหายโอนเงิน จำนวน 15,750 บาท เพื่อปลดล็อคบัญชี โดยคนร้ายให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.อัมภาวรรณ ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงิน 15,750 บาท ไปยังบัญชีธนาคารของคนร้าย

เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว คนร้ายให้ตรวจสอบยอดเงิน ผู้เสียหายจึงตรวจสอบพบว่ามีเงิน 65,750 บาท แต่คนร้ายแจ้งว่าผู้เสียหายทำรายการโอนเงินเพื่อปลดล็อคบัญชีผิด โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้พิมพ์บันทึกช่วยจำตามที่แจ้ง จึงให้ผู้เสียหายโอนเงิน 15,750 บาท เพื่อปลดล็อคบัญชีอีกครั้ง โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชี น.ส.อัมภาวรรณ อีกครั้ง รวมเป็นเงิน 31,500 บาท แต่แล้วคนร้ายก็ยังอ้างว่าโอนผิด ให้โอนเพิ่มอีกเพื่อปลดล็อค รวมแล้วสูญเงินไปร่วม 1แสนบาท ผู้เสียหายจึงรู้ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอก ก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี

ภายหลังศาลออกหมายจับผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.5 บก.ป.ได้เร่งสืบสวนติดตาม โดยพบว่าผู้ต้องหารายนี้ หลบหนีมาทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงวางแผนเข้าจับกุม และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามพราน รับไว้ดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.อัมภาวรรณ ยังมีหมายจับติดตัว โดยเป็นหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.667 2568 ลงวันที่ 23 พ.ค.2568 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ท้องที่ สภ.โพธาราม รวม 2 หมายจับ ซึ่งมีการกระทำผิดลักษณะเดียวกัน

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ามีลูก 3 คน ช่วงนั้นขัดสนเงินจึงได้ไปรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้ที่จ้างวาน ได้รับเงินค่าจ้างเปิดบัญชี 500 บาท โดยไม่มีทราบว่าถูกนำไปใช้กระทำผิด และไม่มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่หลอกผู้เสียหายแต่อย่างใด

015