แม่พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ร้องไห้ปิ่มขาดใจหลังได้รับข่าวร้าย ลูกถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตขณะปะทะกับทหารเขมร ที่ชายแดนศรีสะเกษ เผยสุดเศร้าขณะอยู่ศูนย์อพยพสวดมนต์ภาวนาขอให้ลูกปลอดภัยทุกวัน ทั้งเสียใจและภูมิใจ พี่สาวเผยทั้งน้ำตาน้องปกป้องแผ่นดินจนวินาทีสุดท้าย ส่วนเหตุปะทะที่ช่องสายตะกูทหารเจ็บ 4 นาย ล่าสุดเสียชีวิตที่ รพ.1 นาย
29 กรกฎาคม 2568 นายกิมแดง และนางติน กระจ่างทอง พร้อมสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่ต้องอพยพหนีภัยสู้รบไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ต่างร้องไห้ด้วยความเสียใจ หลังทราบข่าวร้ายจากทางการว่า พลทหาร ธีรยุทธ กระจ่างทอง หรือพลทหารแก้ว อายุ 21 ปี สังกัด มทบ.21 (ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา) ได้ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วานนี้ (28 ก.ค.68) ก่อนจะถึงกำหนดหยุดยิงตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
จาก นั้นทางกิ่งกาชาดอำเภอละหานทราย ก็ได้จัดรถตู้ไปรับพ่อแม่และครอบครัว พลทหารธีรยุทธ ที่ศูนย์พักพิงใน อ.นางรอง กลับมาที่วัดแห่งหนึ่งใน ตำบลตาจง อำเภอละหานทราย เพื่อมารอรับศพลูกชาย ที่ทางการจะส่งศพกลับภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.68) เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ
ขณะที่ นายเทพพนม สมเสมอ นายอำเภอละหานทราย พร้อมปลัดอำเภอละหานทราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้เดินทางไปให้กำลังให้พ่อแม่ และครอบครัวของพลทหาร ธีรยุทธ โดยรับปากว่าทางการจะรับผิดชอบจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติ ให้สมกับทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
พร้อมกันนี้ ผู้นำชุมชน ชรบ. และชาวบ้านบางส่วนที่เริ่มกลับเข้าหมู่บ้าน หลังมีข้อตกลงหยุดยิง ก็ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อเตรียมรับศพ และประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งคาดว่าศพมาถึงในวันพรุ่งนี้ (30ก.ค.68) ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความสูญเสีย ที่ย้ำเตือนถึงความเสียสละของทหารไทยผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ให้ใครมารุกรานย่ำยี
นางติน ผู้เป็นแม่บอกว่า ก่อนที่ลูกจะไปปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดนช่วงสถานการณ์ตึงเครียด ก็ได้มาไหว้ขอพรแม่ ซึ่งแม่ก็ได้ให้ชายผ้าถุง และพระติดตัวกับลูกชายไปด้วย เพื่อหวังให้ช่วยปกป้องคุ้มครองลูกชายให้ปลอดภัย ซึ่งช่วงแรกก็ยังติดต่อลูกได้ ซึ่งลูกบอกว่าหลังจากนั้นอาจจะติดต่อไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่วนแม่และคนในครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงใน อ.นางรอง แม่ก็สวดมนต์ภาวนาขอให้ลูกปลอดภัยทุกวัน และติดตามข่าวการปะทะกันตลอด
กระทั่งช่วงเช้าเห็นลูกสาวร้องไห้ ก็ยังแปลกใจว่าร้องไห้ทำไม ตอนนั้นลูกสาวยังไม่ยอมบอกอาจจะกลัวแม่ทำใจไม่ได้ กระทั่งสายๆ จึงรู้ว่าลูกชายที่ไปรบถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตก็ใจแทบสลาย เพราะได้ยินเขาบอกว่าจะหยุดยิงแล้ว ก็คิดว่าลูกจะปลอดภัยไม่มีการสู้รบกันแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องมาสูญเสียลูกชายเร็วแบบนี้ ก็ทั้งเสียใจที่สูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ก็ภูมิใจที่เขาได้รับใช้ชาติ ก่อนหน้านี้ช่วงที่ลูกประจำการก็ส่งเงินให้แม่ใช้ตลอด แล้วก็รับปากแม่ว่า ถ้าปลดประจำการแล้ว จะทำงานหาเงินมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ แต่คงไม่มีวันนั้นแล้วเพราะลูกชายจากไปแล้ว
ขณะที่ นางสาวหอมจันทร์ อายุ 26 ปี พี่สาวพลทหารแก้ว บอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา น้องยังแชทมาบอกว่า อยู่ที่ชายแดนศรีสะเกษ ตนก็บอกให้น้องดูแลตัวเองดีๆ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้คิดว่าน้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ กระทั่งเช้าวันนี้มีทางต้นสังกัดแจ้งมาว่าน้องถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตแล้ว ก็แทบช็อกทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกยังไม่กล้าบอกแม่เพราะกลัวแม่จะทำใจไมได้ ก็เสียใจที่น้องจากไป แต่ก็ภูมิใจในตัวน้องชายที่กล้าหาญปกป้องแผ่นดินจนวินาทีสุดท้าย
ส่วนเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ช่วงค่ำก่อนถึงกำหนดหยุดยิง ที่มีทหารบาดเจ็บ 4 นาย ในจำนวนนี้ได้เสียชีวิตที่ รพ.แล้ว 1 นาย คือ จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ภูมิลำเนาที่ จ.หนองคาย และยังรักษาตัวที่ รพ. 3 นาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี