สลด!ม.5ทำร้ายครู
สาเหตุแค่ไม่พอใจคะแนนสอบ
ครูเจ็บสาหัสโร่พบตร.แจ้งเอาผิด
นักเรียนชาย ชั้น ม.5 โหด รัวต่อยหน้า เตะครูสาว กลางห้องเรียนในโรงเรียนพื้นที่จ.อุทัยธานี เหตุแค่ไม่พอใจผลคะแนนสอบ ครูเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวรพ.ก่อนแจ้งความเอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกาย ยังรู้สึกหวาดผวา ด้านผู้ปกครองนักเรียน โร่ขอโทษ-แจ้งลาออกแล้ว
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุนักเรียนชาย ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ทำร้ายร่างกายครูสาว จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสาเหตุเพียงเพราะไม่พอใจผลคะแนนสอบที่ออกมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยครูรายนี้ระบุว่าในวันเกิดเหตุได้เตรียมประกาศผลสอบกลางภาคที่ห้องเรียน ระหว่างนั้นนักเรียนชาย ม.5 คนดังกล่าว ได้เข้ามาถามครูว่า “ครูครับผมได้คะแนนสอบเท่าไหร่” ครูก็ตอบไปว่า “ได้ 18 คะแนน” นักเรียนชายจึงขอดูคะแนน ครูก็ให้ดู ซึ่งในส่วนที่เขาไม่ได้คะแนนเต็ม เป็นส่วนที่ต้องแสดงวิธีทำ เขาทำมา 2 บรรทัด มีเพียงคำตอบซึ่งถูกต้อง แต่เขาไม่ได้แสดงวิธีทำ ครูจึงไม่ได้ให้คะแนนเต็ม พร้อมกับอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงไม่ได้คะแนนเต็ม
อย่างไรก็ตาม นักเรียนคนดังกล่าวกลับไม่ฟัง ครูจึงบอกว่างั้นไปฟังคุณครูท่านอื่นก็ได้ ว่าครูท่านอื่นจะให้คะแนนแบบครูไหม จากนั้นนักเรียน ก็ไปถามครูที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ เหมือนกัน ครูก็อธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงได้คะแนนแบบนี้ ครูเขาก็บอกว่าคะแนนก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของครูผู้สอนแต่ละท่านด้วย
ก่อนที่นักเรียนชายจะเดินกลับมาหาครู พร้อมกับบอกว่า ครูที่ไปถามให้คะแนนเท่านี้ ครูจะให้ผมเท่าไหร่ ครูก็บอกว่าครูให้เท่านี้แหละ ไม่ให้เพิ่ม เพราะถือว่าอยู่ที่ดุลพินิจของครูผู้สอนแต่ละท่าน และครูก็บอกเขาว่า ให้เขาไปสงบสติอารมณ์ก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ ทำให้นักเรียนรายนี้เตะโต๊ะที่ครูนั่งตรวจข้อสอบ 1 ครั้ง แล้วก็ออกจากห้องไปประมาณ 10 นาที ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่ แล้วพูดว่า “ครูต้องขอโทษผม” ครูก็เลยถามย้อนกลับไปว่า “ใครกันแน่ที่ต้องขอโทษ” ซึ่งนักเรียนคนดังกล่าวก็นั่งอยู่ที่โต๊ะประมาณ 2-3 นาที แล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาต่อยใบหน้าครูหลายครั้ง เตะ และตีเข่าใส่ครู จนเพื่อนๆ ในห้องเกิดอาการหวาดกลัว แต่ก็พยายามเข้ามาช่วยห้าม กระทั่งมีครูอีกคนเข้ามาช่วย แต่นักเรียนชายคนดังกล่าวก็ยังใช้คำพูดหยาบคาย ด่าทอครู และยังบอกอีกว่า “สมควรแล้ว ที่ทำกับครูแบบนี้”
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ ครูได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งมีอาการฟกช้ำที่ดวงตา ศีรษะด้านซ้ายบวม ซี่โครงอักเสบ และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองฉาง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจนัดสอบปากคำในวันที่ 12 สิงหาคมนี้
ขณะเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุ ผู้ปกครองของนักเรียนได้ติดต่อเข้ามาขอโทษครูแทนลูก โดยนักเรียนชายคนดังกล่าวถูกพักการเรียน และเขาได้มาทำเรื่องลาออกจากโรงเรียนในเวลาต่อมา
“ทุกวันนี้ตอนนอนก็ยังมีอาการผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับคนอื่น เรื่องคะแนนสอบไม่จำเป็นต้องมาทำร้ายร่างกายกันขนาดนี้ เพราะมีอีกหลายวิธีในการแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเลือกใช้กำลังกับครู” ครูที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งจับภาพนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งนี้ ในขณะก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งภาพแสดงให้เห็นว่านักเรียนได้ทำร้ายด้วยการใช้หมัดซ้อมครูแบบไม่ยั้งถึง 14 ครั้ง และยังใช้เข่าจนครูได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เช่นเดียวกับฝ่ายผู้ปกครองของนักเรียนรายนี้ ที่ยังไม่สามารถติดต่อได้
วันเดียวกันนี้ ทางครูสาวคนดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พรทิพย์ บ้านอยู่ และยังมีอาการบาดเจ็บดวงตาบวม ร่างกายฟกช้ำ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.เรวัติ ศิริตื๊นลี พนักงานสอบสวน สภ.หนองฉาง เพื่อให้ปากคำกรณีที่ได้แจ้งความดำเนินคดีนักเรียนชั้น ม.5 ที่เป็นลูกศิษย์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ และในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้นัดนักเรียนคนดังกล่าว มาสอบปากคำแบบสหวิชาชีพ
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ.ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท พบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ไม่ได้อยู่ในสังกัด สพฐ.แต่ต้องขอแสดงความเสียใจและห่วงใยต่อครูผู้เสียหาย พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อหลายฝ่าย ทั้งครูที่ได้รับบาดเจ็บ นักเรียนผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ปกครอง ซึ่งทาง สช.จะดำเนินการตามบทบาทหน้าที่
“ผมเข้าใจความรู้สึกครูผู้เสียหายและรับรู้ว่าครูทั่วประเทศรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะครูทุกคนควรได้ทำหน้าที่ในห้องเรียนอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันเราจำเป็นต้องมองให้รอบด้าน เพื่อทำความเข้าใจว่ามีปัจจัยใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของนักเรียน รวมถึงดูแลความรู้สึกและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมชั้น ผู้ปกครอง และโรงเรียน เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญในการเสริมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา เสริมทักษะการสื่อสารและการจัดการอารมณ์ให้ทั้งครูและนักเรียน และสร้างวัฒนธรรมโรงเรียนที่ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยและสนับสนุนการเรียนรู้อย่างแท้จริง” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี