วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘อุตฯอาหารสัตว์-ภาคปศุสัตว์ไทย’ร่วมสร้าง‘อากาศสะอาด’ ไม่รับซื้อวัตถุดิบจากการเผา

‘อุตฯอาหารสัตว์-ภาคปศุสัตว์ไทย’ร่วมสร้าง‘อากาศสะอาด’ ไม่รับซื้อวัตถุดิบจากการเผา

วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 19.00 น.
Tag : ภาคปศุสัตว์ วัตถุดิบ อากาศสะอาด อุตสาหกรรมอาหารสัตว์
  •  

‘อุตฯอาหารสัตว์-ภาคปศุสัตว์ไทย’ร่วมสร้าง‘อากาศสะอาด’ ไม่รับซื้อวัตถุดิบจากการเผา

หลังรัฐบาลอเมริกาภายใต้นโยบาย “ทรัมป์ 2.0” ประกาศอัตราภาษีนำเข้าที่จะเก็บจากสินค้าไทย 19% เท่ากับกัมพูชา โดยไทยรับปากจะนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลายรายการ ที่สำคัญไทยเสนออัตราภาษีนำเข้าเป็น 0% สมใจหวังของพญาอินทรีย์ไม่น้อย แต่กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางของไทย โดยเฉพาะการเปิดตลาดให้กับวัตถุดิบอาหารสัตว์หลักอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง หากมองด้วยความรอบคอบถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น “นี่คือจุดเริ่มต้นในการปรับโครงสร้างการผลิต” เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผลิตภัณฑ์อาหารของไทยในอนาคต 


อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์และสมาคมปศุสัตว์หลายสมาคม พร้อมร่วมขับเคลื่อน (ร่าง) พระราชบัญญัติอากาศสะอาด ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2568 นี้ ด้วยแนวทางการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเป็นระบบ และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกเรื่อง “การผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน” โดยเฉพาะการไม่รับซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่มีการเผาป่า หรือบุกรุกพื้นที่ป่า ตลอดจนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นพิษข้ามแดน

ปัจจุบันผู้ผลิตอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบ โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำ และเป็นวัตถุดิบหลักที่เกี่ยวข้องกับการเผาหลังการเก็บเกี่ยว (เผาตอซัง) ด้วยการใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมและระบบ GPS ตรวจสอบการเผาแปลง สามารถระบุพื้นที่ปลูกได้อย่างแม่นยำและตรวจสอบได้ว่าไม่มีการเผาทั้งก่อนปลูกและหลังเก็บเกี่ยว 

นอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามหลักวิชาการภายใต้มาตรฐานสินค้าเกษตร (Good Agricultural Practice : GAP) รวมถึงการให้ความรู้แก่เกษตรกรในการใช้วิธีไถกลบแทนการเผาตอซัง เพื่อเพิ่มคุณภาพของดินในระยะยาว ช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษและลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่การผลิตอาหาร 

แม้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์ แต่ตัวเลขผลผลิตทั้งหมดของประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ กล่าวคือ ประเทศไทยมีพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 6.7 ล้านไร่ ได้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประมาณ 5 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้ในการผลิตอาหารสัตว์มีถึง 8.9 ล้านตัน ที่เหลือต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ระบบการตรวจสอบย้อนกลับภายในประเทศจำเป็นต้องดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ไม่ควรให้เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว และควรจัดทำระบบที่มีความสอดคล้องกันหรือมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นการสร้างเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) เพื่อเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานได้ดี เนื่องจากผู้ประกอบการยังไม่เคยมีระบบประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสม 

การประกาศนโยบายไม่รับซื้อข้าวโพดจากแหล่งที่มีการเผา ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลด PM2.5 แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในประเทศและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากไทย ว่ามีมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัยและยั่งยืน

สำคัญที่สุด คือ การบังคับใช้ (ร่าง) พระราชบัญญัติอากาศสะอาดฉบับนี้ ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุปทานทั้งเกษตรกร ผู้ค้าพืชไร่ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ และผู้ผลิตอาหาร จึงจำเป็นที่กฎหมายต้องมีหลักการ แนวทางปฏิบัติ การประเมินความเสี่ยง บทลงโทษ กรรมการกำกับดูแลทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ตลอดจนบริบทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนี้ต้องมีความชัดเจน โปรงใส และตรวจสอบได้ ไม่ควรให้อำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป หรือมีบทลงโทษที่ไม่สมเหตุผล จำเป็นต้องทบทวนจุดอ่อนของกฎหมายให้รอบคอบและรอบด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียกับกฎหมายนี้อย่างแท้จริง ให้จัดหาวัตถุดิบมีความรับผิดชอบ ตรวจสอบย้อนกลับได้ และส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้./ 

#ไศลพงศ์ สุสลิลา นักวิชาการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกษตรกรอยู่ยาก? ‘ผู้เลี้ยงไก่ไข่’โอด!ต้นทุนผลิตสูงรอบด้าน เกษตรกรอยู่ยาก? ‘ผู้เลี้ยงไก่ไข่’โอด!ต้นทุนผลิตสูงรอบด้าน
  • รัฐควรต่ออายุนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์เป็นทุก 3 ปีเช่นเดิม รัฐควรต่ออายุนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์เป็นทุก 3 ปีเช่นเดิม
  •  

Breaking News

ทบ.ชี้แจง! เขมรลือข่าว'ไทยเตรียมโจมตี' เป็นข้อมูลเท็จ! ย้ำไม่มีคำสั่งอพยพ

'ในหลวง'โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานกำลังพลบาดเจ็บ

‘พุทธิพงษ์’ฉายภาพปะทะไทย-เขมร สะท้อน‘ผู้บริหาร’ต้องมาพร้อมความกล้าตัดสินใจ-รับผิดชอบ

‘ปลอดประสพ’กาง 5 ข้อ ประกาศรับซื้อ‘ทุ่นระเบิดเขมร’ เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved