เร่งสางปมต้องสงสัย
‘ธนกฤต’ตรวจวัดพระบาทน้ำพุ
เข้าพบ‘หลวงพ่ออลงกต’ส่วนตัว

“ธนกฤต” รุดตรวจวัดพระบาทน้ำพุ สถานชีวาภิบาล ยันสอบทุกปมสงสัย ก่อนเข้าพบหลวงพ่ออลงกต เป็นการส่วนตัว ด้านทนายรัชพล พาอดีตนักข่าวถูกยิงบ้าน ร้องดีเอสไอ มั่นใจเกี่ยวพันปมแฉวัดพระบาทน้ำพุ-มูลนิธิฯ ขอให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า หวั่นเรื่องเงียบหาย

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรับฟังบรรยายสรุป ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี โดยมี นพ.ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ลพบุรี และ ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รายงานการดำเนินการให้ทราบ และมีการแบ่งการตรวจสอบสถานที่ต่างๆ ออกเป็น 4 ทีม

จากนั้นนายกองตรีธนกฤต ได้เดินทางต่อไปยังวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เพื่อตรวจสอบจุดสถานชีวภิบาล ที่อยู่ในการดูแลสนับสนุนงบประมาณจาก สปสช.ซึ่งมีผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่จำนวนหนึ่ง และตรวจสอบอาคารเมตตาธรรม สถานที่เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษาโรคที่หมดอายุ พบว่ามีความทรุดโทรม และพบว่ามีการเคลื่อนย้ายสิ่งของบางส่วนออกไป โดยมีสภาพเหมือนถูกน้ำฝนสาดเข้ามาในอาคาร

นอกจากนี้ได้ตรวจสอบอาคารคนอวดผี เพื่อดูการจัดเก็บยารักษาโรคให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ มีทั้งที่รับมาจากโรงพยาบาล ก่อนที่จะมอบให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในอาคาร ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น และผู้ป่วยที่อยู่ตามบ้านพักด้วย ขณะที่ผู้ป่วยที่มีความแข็งแรงจากการรับยาต้านโรคเอดส์ ก็ช่วยเหลืองานด้านต่างๆ ของวัด จากนั้นได้เข้าเยี่ยมดูอาการ ดูความเป็นอยู่ การรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้าย ส่วนสถานที่เก็บซากศพที่ดองไว้ได้แจ้งให้ดำเนินการฌาปนกิจเพราะวัดไม่ใช่สถานที่ศึกษาของแพทย์

เลขาฯ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับเรื่องผู้ป่วย สถานชีวาภิบาล และเรื่องการปลูกกัญชา มีประเด็นที่ตนต้องตรวจว่าจริงหรือไม่ คือการเก็บรักษาซากศพเพื่อใช้ศึกษาว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะให้ทางกรมอนามัย ดู และจากนี้เมื่อวัดไม่มีคนบริหารงานต่อใครจะเป็นคนดูแล ถ้าผู้รักษาการเจ้าอาวาส จะดำเนินการต่อก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องมีการให้คำแนะนำที่ถูกต้อง

“เรื่องการรับผู้ป่วยเป็นร้อยๆ เตียงจะเข้าข่ายสถานพยาบาลหรือไม่ และการได้รับใบรับรองต่างๆ ของกรมอนามัย ยังมีมาตรฐานอยู่หรือไม่ อีกทั้งการรับเงินกรณีผู้ป่วยเสียชีวิต ที่ยื่นคำขอรับเงิน กรณียังไม่เข้าหลักเกณฑ์สถานชีวาภิบาล ต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจน ส่วนใดไม่ถูกต้องก็ต้องเพิกถอน กรณีผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ต้องตรวจสอบ หากพบว่าช่วยเหลือตัวเองได้จะติดต่อญาติไปดูแล เพราะมียาต้านไวรัสแล้ว ส่วนผู้ป่วยติดเตียงก็จะมีการส่งต่อการรักษา ซึ่งไม่มีปัญหาเพราะจำนวนไม่มาก” เลขาฯ รมว.สาธารณสุข กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปี ทางสาธารณสุข ได้เข้ามาตรวจสอบหรือดูแลบ้างหรือไม่ นายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า สถานพยาบาลดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนจึงไม่มีรายชื่อ และย้อนกลับไป 5 ปี มันไม่มีเรื่องร้องเรียน จึงเป็นปัจจัยที่ตรวจสอบไม่ได้ แต่ครั้งนี้มีเหตุเราจึงมาตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี รวมทั้งดูว่าเกี่ยวข้องอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเรื่องอะไร หากเป็นจิ๊กซอว์โยงกับมูลนิธิ เรื่องการเอาชื่อสถานพยาบาลไปเรี่ยไร รับเงินบริจาค ทั้งที่ไม่ได้เป็นสถานพยาบาล ต้องไปดูว่าข้อกฎหมายว่าเข้าเรื่องอะไร ส่วนสถานชีวาภิบาล ก็เพิ่งมายื่นเรื่องขอเปิด ทั้งที่เปิดมา 20-30 ปี

ต่อมา ที่ใจฟ้าอคาเดมี จ.ลพบุรี นายกองตรีธนกฤต ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับพระพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เป็นการส่วนตัว ไม่เป็นที่เปิดเผย

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วันเดียวกัน นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ได้พา นายตภิกฤษ พวงกุหลาบ อดีตผู้สื่อข่าวที่ถูกยิงถล่มบ้าน เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนกรณีการรับเงินบริจาคของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ เจ้าของเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” และวัดพระบาทน้ำพุ โดยขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากการตรวจสอบยังไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าหากพบว่ามีความผิดจริง อาจจะไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ

นายรัชพล กล่าวว่า การดำเนินการกับหมอบี และวัดพระบาทน้ำพุ มีความล่าช้า ยังไม่มีการออกหมายเรียก จึงเกรงว่าหากหมอบี หรือหลวงพ่ออลงกต อยากจะไปเยี่ยมญาติต่างประเทศช่วงนี้เจ้าหน้าที่จะตามตัวไม่เจอ อีกทั้งเมื่อพิจารณาลักษณะคดีเชื่อว่ามีผู้เกี่ยวข้องเยอะและจำนวนเงินเยอะมาก กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี ตนมองว่าเข้าข่ายที่ดีเอสไอ จะรับเป็นคดีพิเศษได้

นายรัชพล กล่าวเน้นย้ำว่า ถ้าไม่มายื่นเรื่องต่อดีเอสไอ ก็อาจจะบอกว่าไม่มีผู้ร้องทุกข์ โดยนายตภิกฤษ เคยถูกยิงถล่มบ้าน ก็อาจเข้าข่ายเรื่องของผู้มีอิทธิพลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าเคยยื่นเรื่องต่อดีเอสไอ มาแล้ว แต่คดีกลับเงียบไป เจ้าตัวจึงมายื่นเรื่องใหม่อีกครั้ง

ด้านนายตภิกฤษ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 เคยนำเสนอเกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัย ว่ามีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องในส่วนของการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ และโฉนดที่ดินมูลนิธิหรือวัด พอตั้งคำถามไป กลับไม่มีคำตอบ แต่ตำรวจที่สนิทกันได้เตือนให้ระวังตัว หลังจากนั้น 10 วัน คือวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 01.40 น.ก็มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบ้านพักตน จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าโขลง จ.ลพบุรี แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ในเวลาต่อมา คดีก็ไม่คืบหน้าอีก

“เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ผมถูกบุกยิงกลางดึก คิดว่าไม่มีชนวนเหตุอื่น นอกจากเรื่องที่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับวัด คิดว่าเรื่องนี้มันอยู่ในห้วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี สอดคล้องกับเรื่องราวที่ปรากฏเป็นข่าว เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับวัดและมูลนิธิแน่นอน ส่วนคนที่ครอบครองทรัพย์สินของวัดก็เป็นบุคคลที่ปรากฏในสื่อ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนใกล้ชิดหลวงพ่อ บ้างก็เป็นคนมีตำแหน่งในมูลนิธิและวัด” นายตภิกฤษ กล่าว