วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" รายงานว่า ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา ในคดีเกี่ยวกับวัตถุระเบิดของ “แดง ชินจัง” หรือ ยงยุทธ (สงวนนามสกุล) อดีตผู้ชุมนุมเสื้อแดงและผู้ต้องขังทางการเมืองวัย 37 ปี จากเหตุการณ์ระเบิดในที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2557
ในคดีนี้ ยงยุทธ ถูกกล่าวหาว่าได้ร่วมกันกับพวกมีอาวุธปืนชนิดเครื่องยิงลูกระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนออกในอนุญาตให้ไม่ได้ และเป็นยุทธภัณฑ์ทหาร พร้อมทั้งอาวุธปืนพกและกระสุนปืน ไว้ในการครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ทั้งยังพกติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็น และยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่เรียกตนเองว่า กลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่กำลังชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 10 เม.ย. 2557 จำนวน 2 ลูก
ยงยุทธถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทําให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น, มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ยงยุทธให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยมีข้อต่อสู้คดีว่า พยานหลักฐานโจทก์มีเพียงบันทึกซักถามของจำเลยฉบับวันที่ 30 ก.ค. 2557 เพียงชิ้นเดียว ซึ่งถูกจัดทำขึ้นโดยจูงใจ ให้คำมั่นสัญญา และขู่เข็ญจากทหารที่ควบคุมตัวจำเลยไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 อันเป็นพยานหลักฐานที่ต้องห้ามมิให้รับฟังตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/1 อีกทั้งพฤติการณ์ในคดี เป็นเหตุเดียวกันกับคดีที่ศาลอาญาเคยพิพากษายกฟ้องจำเลยทุกคนไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งในคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานชุดเดียวกับคดีทั้งนี้ และมีเพียงคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน โดยจำเลยถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และพูดจาข่มขู่ว่าจะทำอันตรายครอบครัว เพื่อให้การรับสารภาพ
ยงยุทธได้ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณามาตั้งแต่ วันที่ 9 ก.ย. 2567 ในส่วนของคดีนี้ทางทนายความได้มีการยื่นขอประกันตัวถึง 6 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 แต่ศาลอาญายังคงยืนยันคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตลอดมา ระบุทำนองเดียวกันว่า “พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ประกันตัว เกรงจะหลบหนี” และ “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม”
ศาลพิพากษายกฟ้อง คำสารภาพของจำเลยให้การไว้โดยไม่สมัครใจ และพยานโจทก์มีเพียงพยานบอกเล่า
ในวันนี้ (21 ส.ค. 2568) มีประชาชน 4-5 คน และครอบครัวของยงยุทธเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา ยงยุทธถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับผู้ต้องขังคนอื่น ๆ กว่า 10 คนที่มาสืบพยานในคดีอื่น ในห้องพิจารณาเดียวกัน
ศาลออกนั่งพิจารณาคดีเวลา 09.41 น. และเริ่มอ่านคำพิพากษาคดีนี้ มีสาระสำคัญดังนี้
พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนนั้น จำเลยได้ให้การไว้ในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นการให้การไว้โดยจำเลยไม่สมัครใจ คำสารภาพของจำเลยจึงรับฟังไม่ได้ และในชั้นสอบสวนหรือชั้นซักถาม พยานของโจทก์ล้วนเป็นเพียงพยานบอกเล่า พยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่อาจรับฟังได้
ศาลพิพากษายกฟ้อง
อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนี้แล้ว แต่ยงยุทธยังไม่ถูกปล่อยตัว เพราะยังถูกขังในอีก 4 คดีที่ยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้น ซึ่งทนายจะทำเรื่องประกันตัวต่อไป โดยอีก 4 คดี ก็เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ระเบิดในที่ชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ในช่วงปี 2557 เช่นกัน ได้แก่
คดีจากเหตุวันที่ 26 มี.ค. 2557 สืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 3 กันยายน 2568 (หมายเลขคดี อ.1003/2567)
คดีจากเหตุวันที่ 11 พ.ค. 2557 ศาลนัดสืบพยานวันที่ 26-28 ส.ค. 2568 (หมายเลขคดี อ.1431/2567)
คดีจากเหตุวันที่ 8 ก.พ. 2557 ศาลนัดสืบพยานวันที่ 4-5 ก.ย. 2568 (หมายเลขคดี อ.2489/2567)
คดีจากเหตุวันที่ 10 มี.ค. 2557 ศาลนัดสืบพยานวันที่ 16-18 ก.ย. 2568 (หมายเลขคดี อ.1725/2567)
ขอบคุณ : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี