เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี น.ส.จารุวรรณ อายุ 32 ปี ลูกค้าสาวเข้ามานั่งร้านอาหารตามสั่งริมแม่น้ำปิงในพื้นที่ตำบลคลองขลุง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร สั่งสุราและอาหารมานั่งกินชมวิว ยังไม่ทันหมดขวด เกิดมีปากเสียงกับป้ามีนา วัย 62 ปี เจ้าของร้าน สุดท้ายใช้มีดพกแทงเลือดท่วมญาติรีบพาส่ง รพ.และสิ้นใจเสียชีวิต ตำรวจเร่งตามไปจับได้ที่บ้าน มือฆ่ากลับพูดสั้นๆหนูง่วง ยังไม่พูดชนวนโหด โดยล่าสุดก่อนวันเกิดเหตุ 2 วัน กล้องวงจรปิดจับภาพ สาว 32 ปี นั่งดื่มสุรากับชาย 2 คน ในร้าน ก่อนถูกชายเสื้อเหลืองหิ้วกลับไปบ้าน ผ่านมาสองวัน สาว 32 ปี แค้นป้าร้านตามสั่ง ทำไมป้าปล่อยให้ผู้ชายเอาตัวหนูไปจนกลับมาก่อเหตุแทงป้ามีนาจนเสียชีวิตตามข่าว
โดยบรรยากาศงานศพคืนแรกเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจมีกลุ่มญาติ เพื่อนสนิท คนในหมู่บ้าน และเพื่อนๆของลูกชายที่เป็นทหาร เดินทางมาช่วยกันจัดเก้าอี้และเคารพศพด้วย โดยทุกคนต่างรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากไม่คิดว่าป้ามีนาจะจากไปไวขณะนี้ ซึ่งอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าทำไมโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้
สำหรับเรื่องของการเรียกตัวชายเสื้อเหลืองจากในกล้องวงจรปิดที่นั่งดื่มที่ร้านเกิดเกตุ เข้ามาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวยอมรับว่ารับสาว 32 ปี ไปนอนด้วยกันจริง ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้มากนัก
ขณะในเวลาเดียวกัน “พลทหารนิรัช คงตุ้ม“ อายุ 22 ปี สังกัด พัน 3 ร.31 รอ. ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี ลูกชายของป้ามีนา (ผู้เสียชีวิต) หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของแม่ ก็เดินทางกลับจากแนวชายแดนที่ประสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ทันที โดยมีหัวหมู่ขับรถมาส่งถึงวัดในวันนี้ เมื่อเดินทางมาถึงก็ได้เข้าไปโผล่กอดที่ฝาโลงของแม่พร้อมกับร้องไห้เสียใจ ก่อนจะจุดธูปไหว้หน้าศพ จากนั้นได้เดินเข้าไปโผล่กอดกับญาติพี่น้องคนในครอบครัว ต่างพากันร้องไห้เสียใจเมื่อหลานชายที่เป็นทหารเดินทางกลับมาถึง โดยจากนี้จะจัดงานศพของแม่ให้แล้วเสร็จก่อนที่จะกลับไปทำหน้าที่ทหารแนวชายแดนเหมือนเดิม โดยได้รับการอนุญาตให้ลา 10 วัน
“พลทหารนิรัช คงตุ้ม“ (นาย) เล่าว่า พี่สาวได้โทรมาบอกตนเองว่าแม่เสียแล้ว ตอน 17.00 น. วันเกิดเหตุ ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าเกิดเหตุในช่วง 14.00 น. เพราะกลัวจะสะเทือนใจ ซึ่งตนใช้ชีวิตอยู่กับแม่มาตลอดตั้งแต่เด็ก ส่วนพี่สาวก็อยู่ต่างจังหวัด ทราบข่าวตนรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นกับผู้ก่อเหตุมาก อยากจะบอกกับแม่ว่าหากชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก ที่ผ่านมาแม่ของตนเองไม่เคยดุว่าและตีตนเลย สอนให้ตนเองเป็นคนดีเสมอมา
โดยอยากให้เรื่องที่เกิดกับแม่ตนเองเป็นคนสุดท้ายในเรื่องแบบนี้ ซึ่งในสถานการณ์สนามลบไม่รู้ข่าวร้ายแบบนี้หากตนเองไม่มีควบคุมอารมณ์ก็อาจจะสติแตกเป็นคนบ้าไปแล้ว ซึ่งตนรู้แค่เพียงว่ามีหน้าที่ปกป้องประเทศ และมีหน้าที่เป็นลูกที่ดีแค่นั้น ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็มาทำเพื่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย และหากพูดถึงเรื่องสิ่งของเครื่องรางที่ติดตัวสนามรบ แม่ของตนไม่ได้ให้อะไรติดตัวไปแต่ให้ใจมาล้วนๆ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับแม่ก็ไม่อยากให้ตนไปสนามรบ เพราะเป็นห่วง ซึ่งจากนี้ต่อไปก็ยังคิดไม่ออกว่าจะวางแผนชีวิตยังไงขอจัดงานศพแม่ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี