“เดือดยิ่งกว่าในหนัง” คลิป ตชด.ไล่จับแก๊งยาบ้ากลางวันแสกๆ โดนยิงสวนเกือบม่องเท่ง รวบผู้ต้องหา 2 คน ยาบ้า 1 แสนเม็ด
28 สิงหาคม 2568 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.สุรศักดิ์มนตรี) หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) โดย กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย.ฉก.ตชด.237) พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.ต.ท.บัญชา สมัครรัฐกิจ รอง ผกก.ตชด.23 และ พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 237 ได้เปิดปฏิบัติการ "No Drugs No Dealers" (ไม่มียาเสพติด ไม่มีผู้ค้า) รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงได้จัดกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ วางแผนเพื่อทำการจับกุมลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว โดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทาง แต่งกายนอกเครื่องแบบให้กลมกลื่นกับพื้นที่ และวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทาง
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณบ่ายสองโมง ชุดปฏิบัติการ นำโดย ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน ได้ตรวจพบรถกระบะแค็ป ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีเทา ทะเบียน บพ 5125 เลย ขับขี่อยู่ถนนลาดยางซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ อบจ.นครพนม ที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านเส้นทางบ้านนาเรียง ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม - บ้านม่วงชี ต.โพนทอง อ.บ้านแพง
โดยมุ่งหน้าไปทางบ้านม่วงชี หมู่ 1 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ แต่คนที่อยู่ในรถกระบะไททัน นอกจากไม่ยอมหยุดรถให้แล้ว ยังใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงสวนออกมา โชคดีที่กระสุนไม่ถูกใคร และคนร้ายพยายามขับรถยนต์ แหวกฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่หลบหนี ในเมื่อผู้ต้องสงสัยใช้ความรุนแรง ชุดปฏิบัติการจึงมีความจำเป็น ต้องใช้มาตรการตอบโต้ตามยุทธวิธี ทีมตชด.นายหนึ่งตัดสินใจขับรถกระบะโตโยต้า พุ่งชนรถยนต์ไททันของคนร้าย เป็นการเข้าสกัดหยุดรถยนต์เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้
ปรากฏว่ามีชายที่อยู่ในรถจำนวน 2 คน เห็นว่ารถยนต์ไปต่อไม่ได้ ต่างเปิดประตูรถวิ่งออกมาเพื่อหลบหนีการจับกุม ซึ่งการไล่กวดจับเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะคนร้ายมีอาวุธปืนอาจยิงสวนขณะวิ่งไล่ก็เป็นได้ ก่อนจะตะครุบตัวเอาไว้ได้
ทราบชื่อผู้ต้องหาว่า นายนิรัตินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เป็นคนขับ และ นายรุ้งฟ้า (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นคนที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจค้น โดยทั้งคู่เป็นชาว อ.เซกา จ.บึงกาฬ
ผลการตรวจค้นรถยนต์ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50 มัด ประมาณ 100,000 เม็ด วางอยู่ในเบาะแค็ป โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ส่วนอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIG sauer รุ่น P365 รวมถึงกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด อยู่ที่ตัวนายรุ้งฟ้า จึงนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่กองร้อย ตชด.237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
นายรุ้งฟ้าผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนด้วยเงิน 5 หมื่นบาท จึงชักชวนนายนิรัตินัยที่ตนเลี้ยงด้วยยาบ้าให้เสพ ทำหน้าที่ขับรถกระบะไททันมารับยาบ้าในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม และเพื่ออำพรางไม่ให้เป็นที่สงสัย จึงใช้ถนนสายรองเส้นเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน แล่นเลาะขอบเทือกเขาภูลังกา เพื่อจะขึ้นสู่ถนนสายหลักคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) ที่บ้านม่วงชี ต.โพนทอง อ.บ้านแพง โดยนัดเจอกันอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่ไม่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะจับทางถูก จึงถูกไล่สกัดจับกุมได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากแฟ้มประวัติอาชญากรรมพบนายนิรัตินัย มีประวัติเสพยาเสพติด(ยาบ้า) ส่วนนายรุ้งฟ้าเคยต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งเสพด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นฉี่สีม่วงทั้งคู่
จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยนายนิรัตินัยผู้ต้องหาที่ 1 ได้ข้อหาเพิ่มว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกายขณะขับขี่ และร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมพกพาอาวุธปืนเข้าไปในตัวเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่รับอนุญาต และร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี