กทม.ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ Breathe Cities รุกแก้มลพิษทางอากาศ

กทม.ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ Breathe Cities รุกแก้มลพิษทางอากาศ

วันอังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.18 น.

กทม. เดินหน้ายกระดับมาตรการเชิงรุก แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมความร่วมมือระดับโลก

 


วันที่ 2 ก.ย. 68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการของโครงการ Breathe Cities พร้อมประกาศความมุ่งมั่นของกรุงเทพมหานคร ในการเข้าร่วมโครงการ C40 Cities Clean Air Accelerator อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการร่วมกับ 50 เมือง ชั้นนำของโลก เช่น ลอนดอน จาการ์ตา โจฮันเนสเบิร์ก และริโอเดอจาเนโร ซึ่งการประกาศความมุ่งมั่นครั้งนี้ จะบรรลุมาตรฐานคุณภาพอากาศระดับชาติ และเดินหน้าไปสู่เส้นทางของการบรรลุเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ณ ห้องประชุม Moonlight Hall พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน

 

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า หัวใจของความสำเร็จคือการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน และกรุงเทพมหานครเองมีโครงการหลายโครงการที่ช่วยลดฝุ่น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. การติดตามเฝ้าระวังและแจ้งเตือน เช่น นักสืบฝุ่น การแจ้งเตือนในสื่อออนไลน์ 2. การกำจัดที่ต้นตอ  เช่น การตรวจควันดำ การกำหนดเขตมลพิษต่ำ (LEZ) โดยห้ามรถ 6 ล้อขึ้นไปที่ ไม่ได้บำรุงรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมเข้าสู่พื้นที่  โครงการ “รถคันนี้ลดฝุ่น” แจกเครื่องอัดฟางให้เกษตรกรเพื่อลดการเผา การ Work from home 3. การป้องกันประชาชน เช่น คลินิกมลพิษทางอากาศ ห้องเรียนปลอดฝุ่น ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ซี่งปัจจุบันเราปลูกต้นไม้ไป 2 ล้านกว่าต้นแล้ว

 

“เรื่องมลพิษทางอากาศเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ และประชาชนให้ความสนใจ เป็นกิจกรรมที่ต้องทำตลอด และต้องร่วมมือกัน เพราะกระทบทุกด้าน ทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม ทำไมหลายคนยังใช้รถเก่า เพราะภาษีที่จ่ายถูกกว่า ทำไมเกษตรกรยังคงเผา เพราะต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งเหล่านี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันช่วยเหลือและแก้ปัญหาที่ต้นตอ เพื่อลดปัญหามลพิษอย่างยั่งยืน ยินดีที่ได้ร่วมมือ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ซึ่งวันนี้ได้มาร่วมงานเปิดโครงการ Breathe Cities ในกรุงเทพมหานครด้วย โดยต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานที่มาช่วยกัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

 

การดำเนินโครงการเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานคร จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ 1. แผนปฏิบัติการและแผนที่นำทาง (Roadmap) การจัดการอากาศสะอาดที่ครอบคลุมและ เท่าเทียม ดำเนินงานโดย ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (Hub of Talents on Air Pollution and Climate : HTAPC) 2. การบูรณาการข้อมูลด้านคุณภาพอากาศ สุขภาพ และข้อมูลจากชุมชนเพื่อเสริมสร้างการบริหาร จัดการอากาศสะอาดอย่างมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ ดำเนินงานโดย มูลนิธิสถาบันเมือง (Urban Studies Institute Foundation : USI) 3. การสนับสนุนนโยบายด้านขนส่งสาธารณะ และการจัดหาที่จอดรถอย่างยั่งยืน ดำเนินงานโดย ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา สถาบันศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. การจัดทำแผนที่คุณภาพอากาศและประชากรกลุ่มเปราะบางเพื่อการออกแบบนโยบายที่ ครอบคลุมและเท่าเทียม ดำเนินงานโดย สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Institute : BDI) และบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) 5. การออกแบบเชิงยุทธศาสตร์และประเมินนโยบายเขตมลพิษตํ่า (Low Emission Zone : LEZ) 6. การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของมลพิษทางอากาศที่มีต่อสุขภาพเพื่อสร้างความตระหนักรู้ การสนับสนุนทางสังคม และการนำมาใช้กำหนดนโยบาย

 

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ ยังเป็นการส่งเสริมบทบาทความเป็นผู้นำระดับโลก ในด้านอากาศสะอาดของกรุงเทพมหานคร สานต่อจากการเข้าร่วมโครงการ Breathe Cities เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเร่งจัดการปัญหาคุณภาพอากาศในขณะที่ ฤดูฝุ่นกำลังจะมาถึง การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อจะได้นำประสบการณ์ และการดำเนินการที่เหมาะสมกับบริบท ของแต่ละประเทศไปปรับใช้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายของเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่จะดำเนินการลด มลพิษทางอากาศร่วมกัน

 

ด้านมุมมองสิ่งแวดล้อมจากนักขับเคลื่อน ผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ อาทิ นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร. สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษ ทางอากาศและสภาพภูมิอากาศ ดร.วิเวียน ปัน หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโครงการ Breathe Cities ประจำเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจน อเล็กซ์ เรนเดลล์ นักแสดงและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่ออากาศสะอาด ของคนเมืองหลวงมาโดยตลอด ความร่วมมืออันดีนี้ นำไปสู่การเดินหน้ามาตรฐานคุณภาพอากาศระดับชาติ และส่งผลดีต่อทุกคนในสังคมอย่างยั่งยืน

 

จากกรอบความร่วมมือระดับโลกสู่แผนปฏิบัติการระดับท้องถิ่นในปี พ.ศ. 2567 กรุงเทพมหานคร ได้เข้าร่วมโครงการ Breathe Cities ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากมูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณะประโยชน์ (Bloomberg Philanthropies) กองทุน Clean Air Fund และองค์การ C40 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อตอบสนองต่อการแก้ปัญหามลพิษในอากาศของเมือง การเข้าร่วมโครงการ Breathe Cities ส่งผลให้กรุงเทพมหานครสามารถปรับปรุงแผนการจัดการคุณภาพอากาศให้สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการอากาศระยะยาวเพื่อประโยชน์ของผู้อาศัยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะชุมชุนและกลุ่มเปราะบาง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศมากที่สุด การจัดทำแผนดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนให้กรงเทพมหานครสามารถใช้ประโยชน์จากอำนาจตามกฎหมายที่จะมีมากขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาได้อย่างเต็มที่ และจะเป็นแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ ในการพากรุงเทพมหานครสู่มาตรฐานคุณภาพอากาศแห่งชาติและองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของ Clean Air Accelerator และมีความพร้อมที่จะปรับแผนการดำเนินงานให้สอดดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของกรุงเทพมหานครอีกด้วย

036

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top