อัยการฟ้อง‘หมอแอร์’
เฉียดฉิวทันฝากขังวันสุดท้าย
อัยการสั่งฟ้อง“หมอแอร์”กับพวกคดีลักลอบค้ายาเสียสาว หลังพนักงานสอบสวน บช.ปส.ส่งสำนวนคดีเฉียดฉิวฝากขังวันสุดท้าย นัดสอบคำให้การ 3 กันยายน ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 11 คน มีทั้งญาติหมอแอร์ และกลุ่มแพทย์ มาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่สำนักงานอัยการคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษกพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (รองผบช.ปส.) และ พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 บช.ปส. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บช.ปส. ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีพ.ต.อ.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ “หมอแอร์” พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาผู้ร่วมขบวนการรวม 12 คน ในฐานความผิดข้อหาสมคบและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 “ฟลูไนตราซีแพม” และข้อหาฉ้อโกงลักลอบซื้อยาควบคุมแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยารักษาอาการวิตกกังวล และยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ออกนอกระบบและนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาทั้งหมด 23 คน ซึ่งจับกุมตัวได้แล้ว 12 คน ส่วนอีก 11 คน ประกอบด้วย แพทย์ 9 คน, ญาติของ พ.ต.อ.หญิง พญ.อัญชุลี ที่เป็นผู้จัดทำเวชระเบียนปลอม 1 คน, และเจ้าของคลินิกอีก 1 คน ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามตามหมายจับมาส่งให้อัยการพิจารณา
ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า การรวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานในคดีมีความครบถ้วน สมบูรณ์ ส่วนเหตุผลที่มา ส่งสำนวนวันสุดท้ายจะมีผลต่อสำนวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบเพราะว่าที่ผ่านมามีการประสานกับพนักงานอัยการมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าสำนวนเรียบร้อย และรอบคอบชัดเจน รวมทั้งที่พนักงานอัยการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมก็ทำอย่างสมบูรณ์แล้ว
นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 สำนักงานคดียาเสพติด ได้รับสำนวนจากกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดยพ.ต.ท.หญิง ลัดดาวัลย์ ฉินประสิทธิชัยกล่าวหา พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ กับพวก 23 คน ผู้ต้องหาฐาน สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ (โซลพิเดม อัลพราโซแลมและฟลูไนตราซีแพม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 (โคลซีนาแพมและคลอราซีเพต) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นข้าราชการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาที่ 1 จะครบกำหนดฝากขังสุดท้ายวันที่ 2 กันยายน นี้และคณะทำงานฯ ได้พิจารณาสำนวนแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนยังมิได้ทำการสอบสวนคดีในส่วนสาระสำคัญให้เสร็จสิ้นกระแสความ การสอบสวนคดีนี้จึงยังมิได้เสร็จสิ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 140 จึงส่งสำนวนคืน เพื่อให้พนักงานสอบสวนบก.ปส.1บช.ปส.ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานอันเป็นสาระสำคัญให้เสร็จสิ้นครบถ้วน และส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยด่วนก่อนครบกำหนดฝากขังสุดท้ายภายในกำหนดวันที่ 1 ก.ย. ก่อนเวลา 13.00 น. นั้น
ต่อมา พนักงานสอบสวน บช.ปส.ได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และส่งสำนวนการสอบสวนกลับมายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 สำนักงานคดียาเสพติด คณะทำงานฯ ได้พิจารณาสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ ที่ 1 นายดุริยลักษณ์ อุปชัย ที่ 2 น.ส.ณัฐพัชร์ ถิระโชติ ที่ 3 นายปกรณ์ จันทร์เทพ ที่ 4 น.ส.พัชรา พงษ์ไสว ที่ 6 น.ส.พัชรมน ชุนใช้ ที่ 7 น.ส.ปราณี พันชัยเจริญ ที่ 8 นายอนาวิน ตั้งศักดิ์สุพรรณ ที่ 9 น.ส.อโรชา ศิลป์ประกอบ ที่ 10 นายมานพ ศรีสัมฤทธิ์ ที่ 11 และ น.ส.ปวริศา นาควิไล ที่ 12 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อัลพราโซแลม, ฟลูไนตราซีแพม, ซูโดเอฟิดรีน และโซลพิเดม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 (โคลนาซีแพม คลอราซีเพตและลอราซีแพม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและขายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นข้าราชการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และสั่งฟ้อง นายอรชุน จันทนาม ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อัลพราโซแลม, ฟลูไนตราซีแพม, ซูโดเอฟิดรีน และโซลพิเดม) โดยการมีไว้ เพื่อจำหน่ายและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 1, 23, 30, 94, 125,127, 134, 149, 152 , 180 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 ได้นำสำนวนยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 12 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญาแล้ว ทั้งนี้ ศาลอาญาประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาและนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งหมด เวลา 09.00น.วันที่ 3ก.ย.โดยหมายเบิกตัวจำเลยทุกคนจากเรือนจำมาสอบคำให้การที่ศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี