ยิงหนุ่มทวงหนี้กลางถนน เข้าใจผิดว่าเป็นคนร้าย สวมหมวก-ไอ้โม่ง-ขี่จยย.ตามติด

ยิงหนุ่มทวงหนี้กลางถนน เข้าใจผิดว่าเป็นคนร้าย สวมหมวก-ไอ้โม่ง-ขี่จยย.ตามติด

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.07 น.

หนุ่มทวงหนี้วัย 22 ถูกยิงเจ็บกลางถนน หลังขี่ จยย.ตามหลังรถยนต์เก๋ง ชายวัย 63 สุดระแวงคว้าปืน .11 มม. ยิงสวนเข้าขา ด้านผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวพร้อมปืน อ้างหลังเห็นสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ-สวมหน้ากากไอ้โม่ง แถมตีไฟเลี้ยวตาม คิดว่าเป็นคนร้ายตามประกบ ขณะที่เพื่อนผู้บาดเจ็บยันแค่ขี่รถกลับบ้าน ไม่มีเจตนาร้าย ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก เตรียมสอบสวน-รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม

3 กันยายน 2568 เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 2 กันยายน ร.ต.อ.นุศิลป์ ทิมศิลป์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด ริมถนนตรัง-น้ำผุด บริเวณแยกตันบาก หมู่ 7 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.วสันต์ บันลือพืช สวป. สภ.เมืองตรัง ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ตำรวจสายตรวจตำบล และฝ่ายปกครองในพื้นที่


ถึงที่เกิดเหตุเป็นริมถนนซึ่งมีความมืด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้าไปขอความช่วยเหลือภายในวัดไร่พรุ หมู่ 8 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ก่อนที่หน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำผุด จะเข้าไปรับตัวคนเจ็บ นำส่ง รพ.ศูนย์ตรัง ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อภายหลังคือ นายณัฐวุฒิ มูลสิงห์ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 197 หมู่ 16 ต.ห้วยขมี้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรนบุรี โดนยิงโดยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณน่องขาขวา จำนวน 2 แผล และข้อเท้าซ้ายจำนวน 2 แผล

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายจรูญศักดิ์ เสนี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 7 ต.นาพละ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยอาวุธปืน พกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อโคลท์ ขนาด 11 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงได้รับมอบอาวุธปืน และนำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียด

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ไปเชิญตัว นายสมบูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พยานและเป็นเพื่อนผู้บาดเจ็บ จากการสอบภาม ทราบว่า พวกตนเป็นคนติดตามทวงหนี้ ก่อนเกิดเหตุจะขับรถกลับบ้าน ซึ่งขับขี่รถ จยย. โดยนายนายณัฐวุฒิ มูลสิงห์ ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ นั่งซ้อนท้าย จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋ง สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขี่นำหน้า เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายจำนวน 2 คน ได้ลงจากรถยนต์เก๋ง แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่พวกตนจำนวนหลายนัด จากนั้นตนจึงขับรถหนีไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน ที่อยู่ภายในวัดไร่พรุ โดยที่พวกตนไม่ได้มีปัญหา รู้จัก หรือขัดแย้งอะไรกับผู้ก่อเหตุมาก่อน

ขณะที่ นายจรูญศักดิ์ เสนี เล่าว่า ตนเองขับรถยนต์เก๋ง ออกจากวัดไร่พรุ พร้อมกับลูกชายหลังจากไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่าได้มีรถ จยย.ขับตามหลังมา 1 คัน นั่งกันมาจำนวน 2 คน ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบและสวมหน้ากากไอ้โม่ง ตนจึงได้เปิดไฟเลี้ยวเพื่อจะเลี้ยวเข้าบ้าน แต่รถ จยย.คันดังกล่าวก็ยังเปิดไฟเลี้ยวตาม ตนจึงตัดสินใจขับรถต่อไปโดยไม่เลี้ยวเข้าบ้าน ส่วนรถจยย.ก็ยังคงขับตาม กระทั่งขับมาเรื่อยๆ ตนได้เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอย ปรากฏว่ารถ จยย.ก็เปิดไฟเลี้ยวขวาตามอีก เมื่อเป็นเช่นนั้นตนก็ไม่เลี้ยว จึงขับรถต่อมา เมื่อถึงที่จุดเกิดเหตุ ได้เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ส่วนรถ จยย.ก็ยังคงเปิดไฟเลี้ยวซ้ายตาม ตนจึงจอดรถแล้วลงจากรถ ปรากฏว่า รถจยย.คันดังกล่าวที่ขับตามมา ได้หักเลี้ยวรถกลับทันที ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงตามหลังไปทันที ถ้าเกิดรถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าซอยตามที่ให้ไปเลี้ยวก็คงไม่ยิง ซึ่งเป็นเหตุที่น่าสงสัย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ และโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อนจะประสานเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุอีกครั้ง.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top