นักวิชาการวิพากษ์จีนตีสองหน้าประกาศในที่ประชุม SCO เคารพอธิปไตย-ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ แต่กลับให้คนจีนเข้าไปขุดเหมืองแรร์เอิร์ทผิดกฏหมายในพม่า-นักสิ่งแวดล้อมจี้รัฐไทยปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามของกองกำลังชาติพันธุ์
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 นายวินเมียวตู (Win Myo Tu) นักวิชาการชาวพม่าของมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมชาวพม่า ได้เขียนบทความเกี่ยวกับมลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองในรัฐฉาน มีเนื้อหาสำคัญว่าในประเทศไทยขณะนี้มีการพูดถึงกันอย่างมากว่าแม่น้ำสายและน้ำกก ซึ่งไหลมาจากฝั่งพม่ากำลังเผชิญกับปัญหามลพิษจากการทำเหมืองแร่ ขณะเดียวกันสื่อของไทใหญ่ SHAN ได้รายงานข่าวการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ท (REEs) ในเขตเมืองสาดซึ่งเป็นพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังว้า ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า มลพิษที่พบในแม่น้ำสายและน้ำกกนั้นมีต้นเหตุมาจากเหมืองเหล่านี้หรือไม่
นายวินเมียวตูระบุว่า จากแผนที่พบว่า น้ำเสียจากเหมืองแรร์เอิร์ท ไหลลงลำน้ำสาขาต่างๆ ของแม่น้ำโขง พื้นที่บางส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธต่างๆ ซึ่งในเขตควบคุมของกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ พบการทำเหมืองทั้งทองคำ แมกนีเซียม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสารหนู (Arsenic) ที่ตรวจพบจากฝั่งไทยในแม่น้ำสาย อาจมีที่มาจากเหมืองเหล่านี้ นอกจากนั้น แม่น้ำกก ซึ่งกำเนิดในเขตเมืองสาด ไหลผ่านเขตที่กลุ่มติดอาวุธควบคุม ก่อนจะเข้าสู่ฝั่งไทย ก็พบว่ามีเหมืองอยู่หลายแห่งเช่นกัน
“แม่น้ำทุกสายทางตอนเหนือของไทย สุดท้ายล้วนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้ปัญหามลพิษจากเหมืองในรัฐฉานตะวันออกส่งผลโดยตรงต่อแม่น้ำสายหลักในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อเหมืองเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกดำเนินการโดยบริษัทจีน ซึ่งไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย และไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม”นักวิชาการผู้นี้กล่าว
นายวินเมียวตู ระบุว่าขณะเดียวกัน จีนกลับประกาศในเวทีอย่างการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation: SCO) ว่าจะเคารพอธิปไตยและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ (ESG) แต่ในทางปฏิบัติ บริษัทจีนจำนวนมากกลับเข้าไปขุดเหมืองผิดกฎหมายในพม่า และขายสินแร่ให้กับรัฐวิสาหกิจ (State Owned Enterprise-SOE) ของจีนโดยตรง เท่ากับว่ารัฐบาลจีนเองก็มีส่วนสนับสนุนการละเมิดอธิปไตยของพม่า และการทำลายสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
“นี่จึงเป็นความย้อนแย้งอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่จีนพูดในเวที SCO ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ทำจริง นอกจากนี้การร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (Lancang–Mekong Cooperation-LMC) จะมีความหมายได้ก็ต่อเมื่อสามารถจัดการอย่างจริงจังกับปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากการทำเหมืองแร่นอกกฎหมายและมลพิษที่กำลังเกิดขึ้นในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา มิฉะนั้นก็เป็นเพียงคำสวยหรูที่ไม่สะท้อนการกระทำจริง”นายวินเมียวตู ระบุ
นส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา และ International Rivers กล่าวว่า การที่ประเทศไทยและฝ่ายความมั่นคงของไทยยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าเรื่องนี้กำลังเป็นภัยคุกคามประชาชนไทย การที่นักลงทุนที่ใช้ภาษาจีนมาทำเหมืองที่ภูเขาต้นน้ำโดยไม่มีกฎหมายใดๆ ควบคุมดูแล ทำให้แหล่งน้ำของประชาชนไทยต้องปนเปื้อนสารพิษ พื้นที่เกษตรกรรมนับแสนไร่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารโลหะหนักและกำลังจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน การที่รัฐไทยยังไม่มีท่าที่แข็งกร้าวปกป้องคนไทยและทำให้ฝั่งพม่า ทั้งกองกำลังว้า กองกำลังอื่นๆ ไม่เกรงใจและยังเดินหน้าขยายการทำเหมืองแรร์เอิร์ทออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ล่าสุดทราบว่ามีการขนอุปกรณ์ไปพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ที่เขตเมืองโต๋น ติดชายแดนไทยฝั่งตรงข้าม อ.เชียงดาว และ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
“ไม่น่าเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน นักลงทุนเหล่านี้สามารถขยายพื้นที่เหมืองได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ใช่แผ่นดินของพวกเขา ไม่ต้องคำนึงถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมใดๆ ไม่คิดว่ามีประชาชนนับล้านๆ คนที่ใช้น้ำที่ไหลออกไปจากเหมืองต้องปนเปื้อนด้วยเคมีรุนแรง เชื่อว่าหากฝ่ายความมั่นคงของไทยมีมาตรการจากเบาไปหาหนัก ฝั่งกองกำลังในรัฐฉานย่อมเกรงใจอยู่บ้าง”น.ส.เพียรพร กล่าว
“ขณะนี้ปัญหามลพิษจากเหมืองแร่นอกกฎหมายในรัฐฉานกำลังขยายวงเป็นประเด็นข้ามพรมแดนในระดับภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแล้ว การประชุมกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้างแม่น้ำโขง ซึ่งนำโดยจีน ที่ประเทศไทยปลายปีนี้ จำเป็นต้องนำวาระนี้เข้าหารือเป็นการเร่งด่วน เพื่อหาทางออกก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป” นส.เพียรพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี