มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แถลงเปิดตัว การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน 'สัตยาพาลี'

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แถลงเปิดตัว การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน 'สัตยาพาลี'

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 20.06 น.
Tag :

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ แถลงเปิดตัว การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน “สัตยาพาลี”

4 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดแถลงข่าวเปิดตัว การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ประจำปี 2568  เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “สัตยาพาลี” ณ โรงละคร สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า เขตดุสิต โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานร่วมแถลงข่าว 


ด้านนางนฤมล ล้อมทอง กรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อ “โขน” นาฏกรรมคู่แผ่นดินไทย และความเป็นมาของการจัดแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ฯ ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อโขน อันเป็นนาฏยกรรมชั้นสูง ทรงทำให้โขนได้รับการยกย่องจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ในปีพ.ศ. 2561 ว่าเป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ’ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยรายการแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ซึ่งการแสดงโขนพระราชทานในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 18 ซึ่งได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงสืบสานรักษาต่อยอด พระราชกรณียกิจ ในพระบรมชนกนาถ และพระบรมราชชนนี ด้วยทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ และทรงตั้งปฎิญาณไว้ว่าจะสืบสาน รักษาต่อยอด  ซึ่งการแสดงโขนฯครั้งนี้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา จากนั้นคณะกรรมการได้คัดเลือกตอนการแสดงเสร็จ และทุกครั้งที่มีการเลือกตอนแสดงจะมีการนำกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบ ซึ่งครั้งนี้ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตอน “สัตยาพาลี”  

ขณะที่ นายประสพ  เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึง การสนับสนุนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และความสำคัญของการเผยแพร่ศิลปะการแสดง “โขน” มรดกทางวัฒนธรรมของชาติและการสนับสนุนบุคลากรทางด้านการแสดง นักแสดง ครูฝึกสอน ตลอดจนครูผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ซึ่งความสำคัญ ของการเผยแพร่ศิลปะการแสดงโขนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติว่า ทุกวันนี้โขนได้รับความนิยมจากผู้ชมทุก เพศทุกวัย ซึ่งในแต่ละปีมีนักแสดงโขนที่เป็นคนรุ่นใหม่สนใจเข้าร่วมคัดเลือกนักแสดง ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ ตัวลิง เป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี  ส่วนผู้ชมนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่พาเพื่อนและครอบครัวชมโขนกันมากขึ้น 

ส่วนนายประเมษฐ์ บุณยะชัย ศิลปินแห่งชาติ ผู้ประพันธ์บท กล่าวถึง การจัดทำบท และคำภาค เจรจา การแสดงโขนในปีนี้ ว่า ในแต่ละปีของการแสดงนั้น โดยเฉพาะบทประพันธ์คณะกรรมการทุกคนได้ร่วมกันคัดสรรอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ชมทุกท่านได้รับชมอย่างอรรถรส แต่ไม่อยากให้ผู้ชมทุกคนชื่นชมเพียงเนื้อเรื่องอย่างเดียว คณะกรรมการทุกคนยังในส่วนอื่นด้วยความประณีต โดยเฉพาะบทเพลงประกอบการแสดงซึ่งเป็นเพลงโบราณที่ ประพันธ์ขึ้นมาตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ส่วนบทนำการแสดงครั้งนี้ ได้นำมาจากบทราชสวัสดิ์ ที่ในหลวงทรงนำมาสอนข้าราชบริพารทุกคน ให้ยึดมั่นในการปฎิบัติหน้าที่ 

และรศ. ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ ศิลปินแห่งชาติ ในฐานะ ผู้กำกับการแสดง กล่าวถึงความพิเศษและภาพรวมของการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพตอน “สัตยาพาลี” ว่า  สิ่งแรกต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีการนำ ศิลปชั้นสูงมาผสมผสานให้คนดูได้คล้อยตามไปด้วย ซึ่งปีนี้ได้รับโจทย์การแสดงให้เน้นเรื่องความกตัญญู ความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดี ดังนั้น ปีนี้ผู้ชมจะได้เห็นความแตกต่างของการรบกันทั้งสองฝ่าย รอบนี้จะเห็นขบวนลงสรงที่มีลิงอย่างเดียว รวมไปถึงกระบวนท่ารบของพญาพาลีและปูยักษ์ ทศกัณฐ์ เป็นต้น 

นายสุดสาคร ชายเสม ศิลปินแห่งชาติ ผู้ออกแบบฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ประกอบการแสดง กล่าวถึงความพิเศษของการแสดงในครั้งนี้ ว่า รูปแบบศิลปกรรมที่ใช้ในโขนหลวง จะนำศิลปกรรมชั้นสูงมาทำเครื่องประกอบฉาก โดยเฉพาะตอน “สัตยพาลี” เป็นตอนที่สนุกมาก น่าสนใจ เช่น วิมานของพระอิศวร ที่ประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาศ ต่อเนื่องไปจนถึงการได้เห็นช้างทรง ของทศกัณฑ์ที่ทรงเครื่องได้อย่างสวยงาม ครั้งนี้ทศกัณฑ์ไม่ได้ทรงรถแต่ทรงช้าง และราชรถของพระลักษณ์พระราม ก็มีความงดงามและอลังการ ส่วรโรงพิธีที่นางมณฑาใช้ก็มีความยิ่งใหญ่ตามแบบศิลปกรรมประติมากรรมของกรุงศรีอยุธยากับกรุงรัตนโกสินทร์ ทุกขั้นตอน

ขณะที่ ผศ. ดร.สุรัตน์ จงดา อนุกรรมการด้านการแสดง กล่าวถึง การออกแบบการแต่งกาย ว่า  จุดเริ่มต้นของ โขนพระราชทานคือเรื่องการออกแบบเครื่องแต่งกาย ต้องพัฒนาเครื่องแต่งกายให้มีความปราณีตและงดงามมากขึ้นทุกปี  ซึ่งผล งานการตัดเย็บชุดนักแสดงล้วนเป็นฝีมือของสมาชิกศิลปชีพ ฯทั้งหมด  แต่ละปีต้องสร้างเครื่องแต่งกายใหม่ตามตัวละคร ตั้งแต่มีการแสดงโขนในช่วง20 ปีมานี้มีอาชีพที่เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายโขน ช่างโบราณและช่างอื่นๆเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะการแสดงโขนพระราชทานประเทศไทยจึงไม่เคยสูญช่าง มีแต่เพิ่มพูนด้วยพระมหากรุณาธิคุณ

ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้มีแสดงตัวอย่างโขนพระราชทาน ตอน สัตยาพาลี จำนวน 2 ตอน คือ “องคตกุมารลงสรง” จับตอนจาก เมื่อพระกุมารองคตเจริญวัย พญาพาลีจึงจัดให้มีพิธีโสกันต์พระกุมาร ตามราชประเพณี ซึ่งการแสดงจะได้เห็นขบวนแห่องคตกุมารเพื่อลงสรง ก่อนจะเข้าปะรำพิธีโสกันต์ ในขบวนลงสรงนี้จะบรรยายความงดงามของขบวนเสด็จซึ่งประกอบด้วยไพร่พลวานรเชิญเครื่องสูงในขบวน การแสดงขบวนสรงชุดนี้ถือเป็นการแสดงครั้งแรก เนื่องจากยังไม่เคยประดิษฐ์ขึ้นมาก่อนในการแสดงโขนครั้งใด  และตอน “พาลีรบสุครีพ” จับตอนจาก หนุมานและสุครีพ ได้เข้าเฝ้าพระรามและได้กราบทูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งแรกพระรามเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของพี่น้องจึงไม่อยากเข้าแทรกแซงให้เกิดข้อครหา สุครีพ ได้ทูลพระรามว่าพาลีเคยให้สัตย์สาบานเมื่อครั้งที่ฝากนางดารามาพระราชทานแก่สุครีพ ว่าต้องให้ศรพระนารายณ์เมื่อขาดสัตย์ พระรามจึงให้สุครีพกลับเข้าเมืองขีดหินเพื่อรบกับพาลี พาลีเคารพกับสุครีพ พระรามดูเหตุการณ์อยู่แผลงศรไปสังหารพาลี และสำแดงมหาเทวฤทธิ์ปรากฏกายพระนารายณ์ พาลีเห็นเช่นนั้นเลยคิดได้ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาและสำนึกผิดต่อความผิดของตนเอง

สำหรับปีนี้การแสดงโขนสุดยิ่งใหญ่ ตอน “สัตยาพาลี” เป็นเรื่องราวของพญาพาลีกษัตริย์วานรเมืองขีดขิน  ที่เสียสัจจะเพราะความหลงผิด แต่ภายหลังมีความสำนึกผิดในสัจจะ ผลของการเสียสัตย์ของพาลีนำพาเข้าสู่เรื่องราวมากมาย ที่จะให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้รับความบันเทิงครบทุกอรรถรส ได้ข้อคิดเรื่องของการรักษาสัจจะ รวมทั้งด้านคุณธรรม ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ รู้รักสามัคคี รู้จักหน้าที่ ที่ต้องพึงปฏิบัติ และจะเป็นการแสดงโขนที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ความพิเศษของฉากจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหนนั้น ติดตามรับชมได้ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สัตยาพาลี" 

ทั้งนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีกำหนดจัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “สัตยาพาลี” ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน –  8 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เป็นต้นมา โดยมีบัตรราคา  2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาทและ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 200 บาท) จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456 www.thaiticketmajor.com 
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top