จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมหนัก หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มปริมาณระบายน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 10,000 ครัวเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้เพิ่มปริมาณการระบายน้ำอยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นและขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว

น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำในหลายพื้นที่ ได้แก่ อ.เสนา, อ.ผักไห่, อ.บางบาล, อ.บางปะอิน, อ.บางไทร และในเขต อ.พระนครศรีอยุธยาบางส่วน ส่งผลให้ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายและหนุนบ้านเรือนให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหาย

นอกจากนี้ ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังเข้าท่วมวัดบุญกันนาวาส อ.บางบาล โดยภายในคืนเดียวระดับน้ำสูงขึ้นถึง 60 เซนติเมตร ทำให้พระภิกษุและสามเณรต้องช่วยกันเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นขึ้นที่สูง

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานว่า ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งแล้ว 5 อำเภอ 64 ตำบล 327 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 10,244 ครัวเรือน โดย อ.เสนา ได้รับผลกระทบมากที่สุด 2,956 ครัวเรือน ตามมาด้วย อ.ผักไห่ 2,370 ครัวเรือน, อ.บางบาล 2,207 ครัวเรือน, อ.บางไทร 2,055 ครัวเรือน และ อ.พระนครศรีอยุธยา 656 ครัวเรือน และยังมีแนวโน้มว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มการระบายน้ำสูงถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงขึ้น

โดยล่าสุด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 นครสวรรค์ที่ 2,071 ลบ.ม./วิ ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 1,800 ลบ.ม./วิ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +16.52 ม.รทก. จึงขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเริ่มเวลา 15.00 น. ทยอยจากอัตรา 1,800 ลบ.ม./วิ เป็นอัตรา 1,900 ลบ.ม./วิ เวลา 21.00 น. (ชั่วโมงละ 15 ลบ.ม./วิ โดยประมาณ) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง ///-026