50จังหวัดฝนหนัก

กทม.ตกร้อยละ80

พิมายน้ำท่วมอ่วม

เพชรบูรณ์ยังสาหัส

กรมอุตุฯเตือน 50 จังหวัดทั่วไทย ฝนตกหนัก กทม.ไม่รอด ตกร้อยละ 80 ชาวพิมาย โอดน้ำท่วมหนักสุดรอบ 10ปี น้ำป่าซัดดับแล้ว 1 ศพ ส่วน จ.เพชรบูรณ์ น้ำท่วมหลายอำเภอ พื้นที่เกษตรนับหมื่นไร่ จมน้ำ

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก บริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังหรือน้ำรอการระบาย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง เช่น กทม.และปริมณฑล รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ชัยภูมิ มุกดาหาร นครราชสีมา และบุรีรัมย์ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทองลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตรและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลตั้งแต่ จ.พังงาขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.ภูเก็ตลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ภายหลังมีฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้ปริมาณฝนสะสมจนเกิดน้ำป่าไหลหลาก จาก อ.ห้วยแถลง เข้าท่วมบ้านเรือน รถยนต์ จนลอยกลางถนน ทางป้องกันและบรรเทาสาธารภัยอ.พิมายและอาสาสมัครต้องช่วยกันอพยพชาวบ้าน เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง

นอกจากนี้ยังมีเด็กชายถูกน้ำป่าซัดลอยออกมานอกบ้าน โดยตาและแม่ของเด็ก ต้องรีบวิ่งออกมาดึงมือ ช่วยไว้ได้ทัน ซึ่งเด็กคนดังกล่าวได้แต่ร้องไห้ ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างระบุว่าน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนปีนี้นับว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี พื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเจอน้ำท่วมหนักขนาดนี้

สำหรับถนนพิมาย-ชุมพวง หน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย น้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร ตำรวจต้องปิดการจราจรไม่ให้รถวิ่งผ่าน เพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและยังเพิ่มปริมาณสูงขึ้น เทศบาลตำบลรังกาใหญ่ได้ใช้รถตักดันเกาะกลางถนนออก เพื่อเปิดทางน้ำไหล หากไม่มีฝนตกซ้ำ คาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติภายในวันเดียวกันนี้

มีรายงานจากกู้ภัยว่ามีประชาชนถูกน้ำป่าไหลซัดจักรยานยนต์ที่ขับฝ่ากระแสน้ำ สูญหาย 1 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหา ต่อมาช่วงเที่ยงวันเมื่อระดับน้ำเริ่มลด ชาวบ้านจึงพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียนนครราชสีมา มีกุญแจเสียบคาอยู่ ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 กู้ภัยต้องช่วยกันนำร่างออกมา ก่อนส่งไปชันสูตรที่ รพ.พิมาย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต

ส่วนที่ จ.เพชรบูรณ์ น้ำยังคงท่วมในหลายอำเภอ มีบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร จมน้ำ ได้รับความเสียหายนับหมื่นไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำป่าสัก และคลองสาขา โดยพื้นที่ อ.หนองไผ่ ฝนที่ตกตลอดคืนส่งผลให้น้ำท่วมบ้าน 35 หลังคาเรือนใน 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน 1 แห่ง ขณะที่พื้นที่การเกษตรใน ต.กองทูล และ ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ ได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทั้งพืชไร่ 1,500 ไร่ นาข้าว 4,500 ไร่ พืชสวน 20 ไร่ และบ่อปลา 20 บ่อ

ขณะเดียวกัน ที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ฝนที่ตกต่อเนื่อง ได้กระทบในหลายหมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 45 หลัง พื้นที่การเกษตร เสียหายเป็นวงกว้าง โดยที่ ต.สะเดียง หมู่ 1-4 พื้นที่การเกษตรจมน้ำกว่า 380 ไร่ ต.นายม ต.บ้านโตก ต.ระวิง หมู่ 1, 2, 4 และ 10 รวมทั้ง ต.ห้วยสะแก ได้รับผลกระทบกว่า 1,450 ไร่ ส่วนคันดินริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ 5 รอยต่อหมู่ 7 ต.ห้วยสะแก เกิดชำรุดดินสไลด์ ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมนาข้าว คาดว่าหากคันดินขาด จะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรกว่า 5,000 ไร่

นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า คันดินที่ชำรุด เกิดจากกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวกราก ทำให้เกิดการกัดเซาะ เป็นระยะทางยาว 60 เมตร ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้ทาง อบต.ห้วยสะแก เร่งนำรถแบ็กโฮ ใช้ต้นยูคาลิปตัส ตอกเสริมแนวคันดิน ซ่อมแซมไม่ให้แตก ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ขณะที่ อ.บึงสามพัน น้ำจากคลองไพรล้นตลิ่งเข้าท่วมในหลายหมู่บ้าน โดย ต.หนองแจง หมู่ 3 และหมู่ 6 บ้านหนองยาวฝั่งตะวันออก น้ำท่วมสูง 1 เมตร ถนนเส้นคลองไพรไม่สามารถสัญจรได้ต.กันจุ หมู่ 17 น้ำล้นคันแม่น้ำป่าสัก เข้าท่วมบ้านเรือนและถนน สำหรับบ้านลำตระคร้อหมู่ 4 น้ำท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจร ต.วังพิกุล บ้านใหม่สุขเจริญ หมู่ 13 น้ำท่วมขังบริเวณทางแยกเข้าเส้นบ้านคลองยายอาม บ้านโป่งบุญเจริญใต้ หมู่ 15 น้ำท่วมจนต้องแจ้งกู้ภัยช่วยนำส่งผู้ป่วยไป รพ.

ส่วน อ.วิเชียรบุรี สถานีวัดน้ำ S.42 รายงานถึงระดับน้ำแม่น้ำป่าสักอยู่ที่ 11.26 เมตร สูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.26 เมตร ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดได้รับผลกระทบ สำหรับบ้านท่าน้ำ หมู่ 13 ต.ท่าโรง บ้านเรือน 5 หลัง และพื้นที่การเกษตรบางส่วนถูกน้ำท่วม และ ต.บึงกระจับ น้ำจากลำน้ำล้นเข้าท่วมถนนและพื้นที่เกษตร อีกทั้งยังมีน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ทะลักเข้าท่วมไร่นาด้วย