กรมอุทยานฯ สั่งเช็กประวัติการเลี้ยงสิงโต ไม่ชัดสาเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนเสียชีวิต
วันที่ 10 กันยายน 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีสิงโตในสวนสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักไซเตสเข้าตรวจสอบพื้นที่ทันที พร้อมขอความร่วมมือควบคุมพื้นที่ส่วนจัดแสดงสัตว์ซาฟารีแล้ว จุดเกิดเหตุอยู่ในบริเวณโซนเปิดท่องเที่ยวไดร์ทรู โดยซาฟารีมีการขออนุญาตเปิดกิจกรรมสวนสัตว์ถูกกฎหมาย และครอบครองสิงโตหลายตัว
เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าทำไมสิงโตถึงรุมทำร้ายคนเลี้ยงจนเสียชีวิต ต้องเช็กประวัติการเลี้ยงว่า มีการปฏิบัติอย่างไร ใช้ความรุนแรงกับสัตว์หรือไม่ หรือมีจุดอ่อนจนสิงโตทำร้ายคนเลี้ยงได้ และคงไม่ใช่แค่สิงโต แต่ยังมีสัตว์ชนิดอื่นในสวนสัตว์ โดยเฉพาะสวนเสือ ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับคนเลี้ยง หรือนักท่องเที่ยวได้
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้สิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก.หมายถึงสัตว์สายพันธุ์ที่มีลักษณะนิสัยดุร้าย มีพฤติกรรมที่อาจสร้างความหวาดกลัว หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของมนุษย์ โดยกรมอุทยานฯ สั่งให้คนเลี้ยงสิงโตในไทย สวนสัตว์รัฐ และเอกชนมาขึ้นทะเบียนครอบครองไว้เมื่อปี 2567 รวม 37 ราย จำนวน 223 ตัว ในส่วนกลางในพื้นที่กรุงเทพฯ แจ้งครอบครอง 4 ราย จำนวน 39 ตัว
สำหรับ สิงโต เป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ชนิด ก.(ดุร้าย) ต้องดูแลในสถานที่ครอบครองที่แข็งแรงปลอดภัย หากไม่มีการแจ้งครอบครองให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 19 วรรค 1 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี เดือนปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเคลื่อนย้ายก่อนได้รับอนุญาต มีความผิดตามระเบียบกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้งและการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม 2565 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี