สลดแม่อายุ 62 ปี ถูกลูกป่วยจิตเวช ใช้มีดปลายแหลมจ้างแทง 19 แผล ทิ้งมีดปักหลัง ก่อนหลบหนี สุดท้ายโดนตามรวบได้ที่เมืองกาญจน์ อ้างถูกแม่ด่าจนโมโหก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 19.30 น.ของคืนวันที่ 18 ก.ย. 68 ร.ต.อ.นิพนธ์ เข็มเอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ศรีสวัสดิ์ ว่ามีคนถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ชายเขาท้ายหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุชายต้องสงสัยคือนายศราวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล)ป่วยจิตเวช อายุ 41 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้หลบหนีไป
หลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพันธ์ เสนาอุดร ผกก.สภ.ศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ แพทย์เวร รพ.ท่ากระดาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ไปถึงพบร่างของนางการะเกต (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 62 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้น พบอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 20 เซนติเมตรปักอยู่กลางหลัง สภาพศพถูกแทงเข้าตามร่างกายรวม 19 แผล หลังจากชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงนำมีกออกมาแล้วเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ท่ากระดาน
โดยหลังจากที่ พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับรายงาน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒนา ภมรพล สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ไปคลี่คลายคดีร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้นายนพดล ลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ปกติแล้วแม่จะอาศัยอยู่กับตนที่บ้าน ต.ท่ากระดาน อ.สรีสวัสดิ์ โดยช่วงเวลา 12.00 น.แต่แม่จะนำข้าวและอาหารมาส่งให้กับนายศราวุฒิ ลูกชายคนละพ่อที่ป่วยจิตเวช ที่บ้านหลังเกิดเหตุเป็นประจำทุกวัน แต่มาถึงวันนี้ตนไม่เห็นแม่กลับมาที่บ้าน ที่ ต.ท่ากระดาน จนกระทั่งเวลา 18.00 น.ตนกับภรรยา จึงตัดสินใจไปตามหาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว สำหรับผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธกระหน่ำแทงแม่จนเสียชีวิต ตนสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของนายศราวุฒิ ลูกชาย ที่ป่วยจิตเวช เพราะหลังเกิดเหตุแล้วหายตัวไป
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ออกติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยตลอดทั้งคืน และมีเบาะแสแจ้งเข้ามาหลายทาง ต่อมาช่วงเช้าวันนี้ (19 ก.ย.)เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้ายทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ลาดหญ้าว่า มีคนนำทองมาจำนำที่ร้าน แต่ทองนั้นเป็นทองปลอม ชายคนที่นำมาจำนำจึงเดินออกไปจากร้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบจึงเดินทางไปพบเจ้าของร้านเพื่อขอตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด ผลปรากฏว่ารูปร่างหน้าตาคล้ายกับผู้ต้องสงสัย
เจ้าหน้าที่คาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะนำทองไปจำนำที่ร้านทองในตลาด เขตเทศาลเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังกันออกติดตามหา จนกระทั่งเวลา 10.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พบชายต้องสงสัยเดินอยู่ที่บริเวณถนนน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นจึงนำตัวมาสอบปากคำที่ กองกำกับการสิบสวน กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี จากการพูดคุยพบว่าผู้ต้องสงสัยมีอาการลักษณะป่วยเป็นจิตเวชจริง
และจากการสอบปากคำครั้งแรกผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พูดจาด้วยอย่างเป็นกันเอง สุดท้ายนายศราวุฒิ ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงแม่จนเสียชีวิตจริง หลังก่อเหตุได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยหลบหนีด้วยการนั่งรถโดยสารมาลงในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า จากลาดหญ้านั่งรถไปที่อำเภอหนองปรือ โดยอ้างว่าไปหาคนรู้จัก จนกระทั้งเช้าวันนี้ได้นั่งรถโดยสารมาลงที่ตลาด ต.ลาดหญ้า อีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำทองไปจำนำ แต่กลับกลายเป็นทองปลอม จึงนั่งรถมาลงที่ตลาดในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ นั้นเบื้องต้นผู้ต้องสงสัย ให้การว่าเป็นเพราะความโมโหจากการที่ถูกแม่ด่า จึงใช้อาวุธมีดลงมือก่อเหตุดังกล่าว แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ทำการสอบปากคำเพิ่มเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี