เตือนพายุ‘มิแทก’
ไทยมีฝนตกหนัก
กรุงเก่าท่วมอ่วม!
หล่มสักดินสไลด์
อุตุฯประกาศ ฉบับ 3 เตือน รับมือพายุ “มิแทก” ทวีกำลังเป็นโซนร้อนแล้ว ทำไทยฝนเพิ่ม-ตกหนัก กรุงเก่าอ่วม! น้ำท่วม 7 อำเภอ 97 ตำบล ประชาชนเดือดร้อน 28,518 ครัวเรือน
เมื่อวันที่ 19 กันยายน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “มิแทก” ฉบับที่ 3 (247/2568) มีใจความว่าพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มิแทก” (Mitag) แล้ว โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย แต่ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
จากอิทธิพลดังกล่าวส่งผลทำให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
ส่วนพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย มีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กทม.และปริมณฑล ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ขณะที่พยากรณ์อากาศรายภาคนั้น ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำในอัตรา 2,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงแม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูง เฉลี่ยประมาณ 10 เซนติเมตร โดยชุมชน ต.แคตก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อาศัยติดกับคลองช่างเหล็ก รับมวลน้ำจากแม่น้ำน้อย ระดับน้ำล้นตลิ่งเข้าไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน ท่วมถนน จนต้องใช้เรือพายสัญจรเข้าออก บางจุดต้องทำสะพานเชื่อมต่อจากบ้านมาถนน
ส่วนที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านสูงประมาณ 1-2 เมตร บางหลังถูกท่วมนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว และสถานการณ์น้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก 4-5 เซนติเมตร ทำให้ต้องของขึ้นที่สูงอีกรอบเพื่อหนีน้ำ
ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 7 อำเภอ คือ อ.เสนา, ผักไห่, บางบาล, บางไทร, พระนครศรีอยุธยา, บางปะอิน และมหาราช 97 ตำบล 603 หมู่บ้าน ประชาได้รับความเดือดร้อน 28,518 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย โดยรายล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ช่วงค่ำวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนายวิโรจน์ สัมฤทธิ์ อายุ 60 ปี เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุจนจมน้ำเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ระหว่างส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุดินสไลด์ครั้งใหญ่บนถนนหมายเลข 12 ช่วงหล่มสัก-ชุมแพ จ.เพชรบูรณ์ ช่วงเลยสะพานห้วยตองไปประมาณ 1 กิโลเมตร ส่งผลให้ดินโคลนและหิน สไลด์ปิดผิวจราจรทั้ง 2 ช่องทาง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำเครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วน ซึ่งกรมทางหลวง ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงและใช้เส้นทางอ้อม โดยให้ใช้เส้นทางสาย 2216 ห้วยสนามทราย-โคกมน-กกกะทอน ส่วนอีกทางให้อ้อมไป อ.หล่มเก่า เข้าแยกกกกะทอน ผ่านบ้านศิลา ต.ตาดกลอย ไปยัง อ.น้ำหนาว แล้วลงเขาไปแยกห้วยสนามทราย พร้อมกับขอให้ใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หรือติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 หรือโทร.0-5671-1443 กด 2 ต่อ 5 (เฉพาะวันและเวลาราชการ)
สำหรับเหตุดินสไลด์ครั้งนี้ มีสาเหตุจากสถานการณ์ฝนตกหนักใน อ.น้ำหนาว อ.หล่มสัก และ อ.หล่มเก่า ติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนเกิดการทรุดตัว อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุดินสไลด์และหินร่วงทับผิวทาง บนทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงน้ำดุก-ห้วยซำมะคาว หลัก กม.ที่ 375+500 โดยแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 หมวดทางหลวงน้ำหนาว ได้เข้าดำเนินการเก็บกวาดจนกลับมาใช้การได้ตามปกติ แต่ยังคงมีดินสไลด์และหินร่วงอยู่เป็นระยะ ทำให้ต้องสัญจรด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วนที่ จ.เลย มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนเกือบทุกพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากภูเขาและลำห้วย เอ่อท่วมหมู่บ้าน ถนน และพื้นที่การเกษตรเสียหาย โดยบริเวณลานมันเจ๊แบน บ้านสำราญ ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ ถูกน้ำป่าจากน้ำสานไหลมาจากยอดภูหลวง เอ่อท่วม และน้ำยังขึ้นตามร่องน้ำภายในหมู่บ้าน ท่วมถนนจนรถกระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่จนไม่สามารถนำออกมาได้ทัน ทำให้น้ำท่วมมิดหลังคารถ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี