เตือนภัย9จว.
ฝนกระหน่ำ
กรุงเก่าอ่วม
จมน้ำ7อำเภอ

กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วม ฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเก่าอ่วมแล้ว 7 อำเภอ

เมื่อวันที่ 20 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยาเผยว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย

ด้านอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน อำเภอเมือง ชัยภูมิ แจ้งว่าพื้นที่บนเทือกเขาภูแลน เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง จำนวนมาก จากที่รับน้ำได้ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เกินการเก็บกัก และล้นทางระบายน้ำแล้ว 12 เซนติเมตร ทำให้ต้องเร่งระบายออก 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

นอกจากนี้ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำป่าหลากมายังลานน้ำตกตาดโตน หนักสุดในรอบปี อุทยานฯ เกรงเกิดอันตราย จึงออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ บริเวณน้ำตกตาดโตนด้านบนใกล้บริเวณผาน้ำตกโดยเด็ดขาด แต่ยังสามารถนั่งกินอาหารและชมวิว ถ่ายรูปได้

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลลงท้ายเขื่อน ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ได้แก่ อำเภอเสนา บางบาล บางปะอิน บางไทร ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา และบางปะหัน

ที่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเสนา โดยเฉพาะชุมชนโรงเรียนวัดกระโดงทอง น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมสนามโรงเรียนสูงประมาณ 1-2 เมตร บ้านเรือนและถนนโดยรอบก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ขณะที่ชุมชนบ้านเลียบ หมู่ 3 น้ำทะลักเข้าท่วมสูงเช่นเดียวกัน ประชาชนกว่า 70 หลังคาเรือน ต้องเผชิญกับน้ำท่วมใต้ถุนบ้าน ถนนทางเข้าออกจมอยู่ใต้น้ำ กระแสน้ำเชี่ยวกราก ทำให้ต้องใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์และจักรยานยนต์ ร้านค้าในพื้นที่หลายแห่งต้องปิดตัวชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำป่าสักในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าขั้นวิกฤต หลังจากศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำป่าสักประกาศเตือนภัยขั้นรุนแรง โดยระดับน้ำในหลายจุดมีแนวโน้มเพิ่มสูงและไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่แล้ว

สถานีตรวจวัดระดับน้ำที่สะพานตาลเดี่ยว วัดได้ 9.04 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 8.30 เมตร ถึง 0.74 เมตร และมีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเขตเทศบาลเมืองหล่มสักและเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว ขณะเดียวกันฝายบ้านวังร่อง หมู่ 5 ตำบลห้วยไร่ ก็อยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน โดยระดับน้ำสูงกว่าสันฝายถึง 4.40 เมตร และแนวคันดินกั้นน้ำได้ขาด 3 จุด ทำให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ามวลน้ำชุดนี้จะเดินทางถึงเขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยวและเทศบาลเมืองหล่มสักภายใน 4-5 ชั่วโมง

จากการลงพื้นที่สำรวจในอำเภอหล่มสัก พบชาวบ้านหลายครอบครัวเริ่มขนย้ายทรัพย์สินและข้าวของขึ้นที่สูง พร้อมทั้งใช้กระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำ นายนฤเทพ ทำทัน ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า แม้นี่จะเป็นน้ำหลากรอบที่ 3 ในเดือนเดียว แต่ชาวบ้านและหน่วยงานราชการมีการเตรียมพร้อมรับมือมากกว่าครั้งก่อน ซึ่งช่วยให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้

ทางอำเภอหล่มสักได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งเตรียมพร้อมกำลังคนและเครื่องจักรกลสาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งกำชับให้ผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิดและเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงและติดตามประกาศเตือนภัยจากทางการเพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้