แนวคันกั้นน้ำพัง! 'มวลน้ำป่าสัก' ทะลักท่วมชุมชนหล่มสัก ประชาชนขนของหนีไม่ทัน

แนวคันกั้นน้ำพัง! 'มวลน้ำป่าสัก' ทะลักท่วมชุมชนหล่มสัก ประชาชนขนของหนีไม่ทัน

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.57 น.

แนวคันกั้นน้ำพัง! 'มวลน้ำป่าสัก' ทะลักท่วมชุมชนหล่มสัก ประชาชนขนของหนีไม่ทัน

วันที่ 23 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.25 น. เกิดเหตุแนวกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณชุมชนหมู่ 9 ตำบลวัดป่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ติดกับ ชุมชนบ้านท่ามะกล้วย ได้พังถล่มลง ส่งผลให้มวลน้ำจากแม่น้ำป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนทันที


ชุมชนบ้านท่ามะกล้วยเคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในรอบแรกมาแล้ว ทำให้ประชาชนบางส่วนยังไม่ทันได้ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ส่งผลให้บ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานพาหนะบางส่วนจมน้ำและได้รับความเสียหายอย่างไม่ทันตั้งตัว

ขณะที่สถานการณ์โดยรวมยังคงน่ากังวล เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักล่าสุดวัดได้ถึง 9.10 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งที่ 8.30 เมตร ถึง 0.80 เมตร และแนวกั้นน้ำเดิมที่เคยพังมาแล้ว 2 ครั้ง ก็เริ่มมีน้ำซึมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เทศบาล และหน่วยกู้ภัย เร่งเข้าพื้นที่เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและขอให้รีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมอพยพไปยังจุดปลอดภัยทันที

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งประสานกำลังเสริมเพื่อซ่อมแซมแนวกั้นน้ำในจุดที่พังและจุดวิกฤตอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำทะลักเข้าสู่ตัวเมืองหล่มสักได้อีกระลอก ///-026

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top