กรุงเก่าอ่วมหนัก น้ำท่วม2-3เมตร ‘แม่แจ่ม’ยังวิกฤต

กรุงเก่าอ่วมหนัก น้ำท่วม2-3เมตร ‘แม่แจ่ม’ยังวิกฤต

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กรุงเก่าอ่วมหนัก

น้ำท่วม2-3เมตร

แม่แจ่ม’ยังวิกฤต

เขตเศรษฐกิจจม

กรุงเก่าท่วมขั้นวิกฤต อ.เสนา ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร นศ.หนุ่มพลัดตกเรือจมหาย ยังไม่รู้ชะตากรรม ส่วนชัยนาท น้ำท่วมขยายวง ขณะที่เพชรบูรณ์ อ.หล่มสัก เริ่มวิกฤต แจ้งเตือนภัยระดับสีแดง ส่วน จ.ขอนแก่น น้ำท่วมซ้ำซาก สัญจรยากลำบาก ผู้ว่าฯ สั่งระดมเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายออกจากพื้นที่

เมื่อวันที่ 23กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ายังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ซึ่งถูกน้ำจากแม่น้ำน้อย เอ่อล้นเข้าท่วมเกือบทั้งตำบล ระดับน้ำเฉลี่ยสูงกว่า 2-3 เมตร บางจุดมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือเพื่อสัญจร


ส่วนช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุนายบูม อายุ 20 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พลัดตกจากเรือขณะพายกลับจากบ้านเพื่อนในพื้นที่หมู่ 6 ต.หัวเวียง ซึ่งมีน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร กระทั่งเพื่อนมาพบเพียงเรือคว่ำและไม้พายลอยอยู่กลางทุ่งนา ขณะที่ทีมค้นหาและนักประดาน้ำ กำลังเร่งค้นหาแต่ยังไม่พบตัว

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องอพยพมาอาศัยอยู่ริมถนนพร้อมขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ โดยเฉพาะครอบครัว น.ส.อัมพร วิสุทธิเสน หนึ่งในผู้ประสบภัย ต้องกางเต็นท์บนสะพานหัวเวียงกับน้องชายที่ป่วยติดเตียง เพื่อสามารถนำส่งโรงพยาบาลได้สะดวกหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยยอมรับว่าต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จึงวอนขอให้รัฐบาลเร่งเข้าช่วยเหลืออย่างจริงจัง

ด้าน น.ส.ปทุมพร สัญญะชิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2ต.หัวเวียง กล่าวว่า ปีนี้ได้เผชิญน้ำท่วมแล้วถึง 3 รอบ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงขณะนี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยยังต้องสูญเสียรายได้ แต่กลับมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก

ที่ จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาล ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ได้ปักป้ายเตรียมปิดถนนคันคลองมหาราชเป็นการชั่วคราว หลังจากมีประชาชนออกมาสร้างเพิงพักชั่วคราวอยู่ริมถนนเพื่อหนีน้ำท่วมแม้ว่าพายุรากาซา ไม่มีทิศทางที่จะเข้าประเทศไทยแต่ชาวบ้านพื้นที่ท้ายเขื่อนใน อ.สรรพยา ที่ทราบข่าวต่างเริ่มมีความกังวลว่าพายุนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม จึงเร่งสร้างเพิงพักเตรียมอพยพเพราะไม่วางใจในสถานการณ์

ขณะที่ทางเทศบาลฯ ได้เตรียมเดินสายไฟฟ้าเพื่อให้ชาวบ้านได้ต่อกระแสไฟฟ้าใช้ชั่วคราว โดยนายธรรมรัตน์ พรหมแก้ว ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่าถ้ารอจนน้ำเอ่อท่วมแล้วค่อยมาสร้างที่พักคงไม่ทันการณ์ เพราะต้องขนย้ายทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ที่นอนหมอนมุ้ง และสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาและกำลังคน และเมื่อดูแนวโน้มปริมาณน้ำปัจจุบันประกอบกับคาดการณ์ฝน จึงเชื่อว่าคงไม่รอดที่จะถูกน้ำท่วม

สำหรับพื้นที่น้ำท่วมของ จ.ชัยนาท รวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ ตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือเขื่อนในอ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.เมืองส่วนท้ายเขื่อน 1 อำเภอคือ อ.สรรพยา รวม16 ตำบล 55 หมู่บ้าน 399 ครัวเรือน ผู้ได้รับผลกระทบ 1,024 คน เมื่อโฟกัสเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาใน อ.สรรพยา พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมทั้งหมด 3 ตำบล คือ ต.ตลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก รวมบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 200 หลังคาเรือน

ที่ จ.เพชรบูรณ์ วันเดียวกัน สถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก มวลน้ำจาก อ.หล่มเก่า เริ่มไหลเข้า อ.หล่มสัก ต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่สะพานตาลเดี่ยว ระดับน้ำอยู่ที่ 9.10 เมตร สูงกว่าตลิ่งถึง 0.80 เมตร ขณะที่ฝายริมแม่น้ำป่าสักฝั่งซ้าย ระดับน้ำก็สูงกว่าระดับวิกฤต3.50 เมตร แล้วถึง 0.50 เมตร ทำให้เริ่มมีน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ ต.สักหลง และ ต.ห้วยไร่ จึงมีการประกาศเตือนภัยระดับสีแดง แล้ว

ส่วนฝายศรีจันทร์ ระดับน้ำเพิ่มสูงกว่าสันฝายประมาณ 1 เมตร แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมใน อ.หล่มสัก ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีมวลน้ำเก่าสะสมเป็นจำนวนมาก และบางพื้นที่มีฝนตกทำให้สถานการณ์น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆขณะนี้ทางอำเภอหล่มสักได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร เครื่องจักรกล และอุปกรณ์กู้ภัย เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและริมแม่น้ำป่าสัก เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย

ที่ จ.ขอนแก่น สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะบริเวณถนนบ้านกอก หน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงโรงเรียนบ้านกอก มีน้ำท่วมขังในระดับ 20-30เซนติเมตร แม้ระดับน้ำจะลดลงจากคืนที่ผ่านมา แต่รถยนต์ยังสัญจรผ่านไปมาลำบาก รวมทั้งได้สร้างคลื่นน้ำกระทบต่อบ้านเรือนชาวบ้านและร้านค้าริมถนน จนได้รับความเดือดร้อน บางแห่งต้องนำกระสอบทรายมากั้นเป็นแนวป้องกัน และแม้จะมีการเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้า แต่น้ำท่วมครั้งนี้มีน้ำรอการระบายนานกว่าที่ผ่านมา

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ 26 อำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเดินเครื่องสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองขอนแก่น ลงสู่แหล่งน้ำสาขา ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำชีต่อไป เบื้องต้นคาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มน้ำที่ท่วมขังจะสามารถระบายได้หมดภายในวันเดียวกันนี้ อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศใน จ.ขอนแก่น ยังคงมีเมฆฝนตลอดทั้งวัน และมีแนวโน้มที่ฝนจะตกเพิ่ม ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ น้ำจากลำน้ำแม่แจ่ม เริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งแต่เวลา 04.30น.โดยพื้นที่ ตำบลช่างเคิ่ง ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น มีทั้งสถานที่ราชการ สถานศึกษา และย่านเศรษฐกิจของอำเภอ ถูกน้ำไหลเข้าท่วมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน น้ำยังเริ่มเอ่อล้นเข้าไปยังพื้นที่การเกษตร ในตำบลท่าผา และบางส่วนของช่างเคิ่ง นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่ม สั่งระดมกำลังทุกฝ่าย ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านยกของขึ้นที่สูง และอพยพกลุ่มเปราะบาง ไปยังจุดปลอดภัยทันที ขณะนี้มีการประสาน อปท.ทุกแห่งเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจุดที่น้ำหลากแรงและประชาชนยังติดอยู่ในบ้าน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top