สถานการณ์น้ำท่วมในเพชรบูรณ์ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะในอำเภอหล่มสัก หลังมวลน้ำจากอำเภอด่านซ้ายไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมบ้านเรือนกว่า 6,900 ครัวเรือน และยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก ทางจังหวัดได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งพบผู้เสียชีวิต 1 รายที่ออกหาปลาแล้วหายตัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเพชรบูรณ์ยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ทำให้มวลน้ำจากอำเภอด่านซ้ายไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก อย่างหนัก

โดยอำเภอหล่มสักได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครอบคลุม 12 ตำบล 60 หมู่บ้าน และ 1 เทศบาลเมือง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายแล้วกว่า 6,842 ครัวเรือน และมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 17,053 คน นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 5,808 ไร่ บ่อปลา 89 บ่อ และวัด 7 แห่งก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่อำเภอหล่มสัก สูงกว่าตลิ่งถึง 1.38 เมตร ในช่วงบ่ายวันนี้

ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ยกระดับการจัดการสาธารณภัยเป็นระดับ 2 และตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยมีมาตรการสำคัญดังนี้ 1.เสริมแนวกั้นน้ำด้วยบิ๊กแบ็กและกระสอบทรายในหลายจุด พร้อมติดตั้งป้ายเตือน 2.ตั้งโรงครัวพระราชทาน จัดทำข้าวกล่องกว่า 1,300 กล่องต่อมื้อเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัย 3.สนับสนุนรถบรรทุก 4 คันสำหรับลำเลียงประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง และ 4.จิตอาสาและเหล่ากาชาดเพชรบูรณ์ได้ร่วมกันจัดทำข้าวกล่อง กรอกกระสอบทราย และให้ความช่วยเหลือในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งเหตุและพบศพ นายสุทิน อายุ 54 ปี ในพื้นที่ ต.สักหลง อ.หล่มสัก ซึ่งออกไปหาปลาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วหายตัวไป ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ท่ามกลางวิกฤตยังมีเรื่องราวที่น่าประทับใจเมื่อเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยกกไทรหล่มสักได้เข้าช่วยเหลือ นักเรียน ที่ติดค้างอยู่ที่โรงเรียนเนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมสูง โดยนำรถบรรทุกสูงและเรือเข้าช่วยลำเลียงนักเรียนกลับบ้าน เมื่อเด็กๆได้พบกับผู้ปกครองต่างโผเข้ากอดกันด้วยน้ำตา เป็นภาพสะท้อนถึงความรักและความห่วงใยท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ///-026