ระทึกกลางกรุง!ถนนทรุดหน้ารพ.วชิระ
หลมยักษ์ลึก50ม
ดินสไลด์-ท่อประปาแตก
อพยพผู้ป่วย/ปชช.ใกล้เคียง
ห้ามใช้อาคารสน.สามเสน
กทม.ตั้งวอร์รูมลุยหาสาเหตุ
ผวาแต่เช้า! ถนนสามเสนหน้ารพ.วชิระทรุดตัว เป็นหลุมยักษ์กว้าง 30 ม.ลึก 50 ม. ท่อประปาแตก-เสาไฟฟ้าล้ม ดินสไลด์ต่อเนื่อง รถเสียหาย 3 คัน เร่งอพยพผู้ป่วย-ปชช.ที่อยู่ละแวกใกล้เคียง รวมถึง ตำรวจในแฟลตตำรวจทั้งร้อยห้อง ส่วนอาคารสน.สามเสนอันตรายห้ามใช้เด็ดขาด ผู้ว่าฯกทม.สั่งตั้งวอร์รูม ออก 7 มาตรการด่วน ประกาศเขตพื้นที่ห้ามเข้า นายกฯรุดตรวจจุดเกิดเหตุ สั่งโยธาฯระดมวิศวกร คาดเป็นชุดเดียวกับ ที่ตรวจอาคารสตง.ถล่มเร่งหาสาเหตุ พร้อมเคลียร์พื้นที่ให้กลับมาปกติเร็วที่สุด ส่วนรฟม.เช็คความเสียหาย สั่งหยุดก่อสร้างบริเวณดังกล่าวทันที
เมื่อวันที่ 24 กันยายน เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เวลา 07.24 น. เกิดเหตุถนนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถ.สามเสน เขตดุสิต ทำให้ต้องปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล - แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้
ถนนทรุดหน้ารพ.วชิรฯอพยพผู้ป่วย-ปชช.
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร และขยายวงกว้างทรุดตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่หน้าโรงพยาบาล หน้าสถานีตำรวจสามเสน เจ้าหน้าที่ รพ.ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากจุดเกิดเหตุเป็นการด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่เกิดเหตุ การทรุดตัวขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถ USAR ชุดปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยชีวิตจากอาคารถล่ม พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบท่อประปาขนาดใหญ่แตกชำรุด มีน้ำท่วมขัง พบการทรุดตัวเกิดขึ้นใกล้เคียงอาคารโรงพยาบาล ส่งผลให้เสาไฟฟ้า 2 ต้น และรถยกของสถานีตำรวจนครบาลสามเสนตกลงไปในหลุมยุบดังกล่าว
ผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่สั่ง7มาตรการด่วน
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือ พร้อมเปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุคือ บริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ บริเวณสถานีโรงพยาบาลวชิระ จุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้ากับสถานี ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของดิน และท่อประปาขนาดใหญ่ชำรุด มีดินไหลเข้าพื้นที่ก่อสร้าง และมีน้ำรั่วไหลเข้าสถานี เบื้องต้นกรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง ได้ตัดน้ำ–ไฟ เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.ตัดน้ำประปาและจัดระบบจ่ายน้ำสำรองให้ประชาชนในพื้นที่ 2. ตัดกระแสไฟฟ้าและสายไฟโดยรอบเพื่อความปลอดภัย 3.อุดรอยรั่วของอุโมงค์ที่ทำให้ดินไหลเข้าสถานี 4. ประเมินความปลอดภัยของอาคารโดยรอบ 5.ติดตั้งระบบมอนิเตอร์ กล้อง CCTV รอบพื้นที่ และตรวจสอบการเคลื่อนตัวของดิน6. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารหลักใกล้เคียง 7. จัดการจราจรโดยประสานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประกาศเขตห้ามเข้า-ห่วงฝนชะดินไหลเพิ่ม
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อว่า ข้อสำคัญอีกข้อคือเรื่องฝนตก ถ้ามีฝนตกจะทำให้มีน้ำเพิ่มในระบบ อาจชะดินลงไปในช่องที่เปิด ซึ่งได้สั่งให้ตั้งทีมงานขึ้นมาพิจารณาตอนฝนตกว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันการไหลของดินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงความเสียหายต่อยานพาหนะ 3 คัน โดยพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายได้ถูกประกาศเป็นเขตห้ามเข้าแล้ว
ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์
สำหรับโรงพยาบาลวชิระ ปรับรูปแบบการให้บริการ โดยงดบริการผู้ป่วยนอกชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนการรักษาผู้ป่วยในยังคงดำเนินการตามปกติ และมีโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานครรองรับผู้ป่วยนอกในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกัน กทม. และ รฟม.ตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ ขอย้ำว่า ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
รพ.วชิรฯยังปลอดภัย-ตั้งศูนย์พักพิง
นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเผยถึงการรับมือเหตุผิวจราจรทรุดตัวหน้ารพ.วชิรฯว่า วชิรพยาบาลปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) เนื่องจากพื้นที่เข้า - ออกโรงพยาบาลทรุดตัวด้วย และให้คนไข้รวมทั้งประชาชนในอาคารทีปังกร ย้ายไปอยู่ที่อาคารเพชรัตน์ พร้อมยืนยันว่าอาคารของวชิรพยาบาล ยังไม่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งลานจอดรถใต้ดิน เนื่องจากโรงพยาบาลมีกำแพงกันดินแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก (D-Wall) ลึกลงไป 3 เมตร แต่ให้ย้ายรถที่จอดอยู่ออกแล้ว คาดว่าผลกระทบด้านโครงสร้างของโรงพยาบาลน่าจะไม่มาก และขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องอพยพผู้ป่วย และการรองรับคนไข้ที่ย้ายจากอาคารทีปังกรไปยังอาคาอื่นๆภายใน ก็ไม่เกิดความแออัด นอกจากนี้ ได้ให้ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ลงพื้นที่ ประเมินความจำเป็นในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และอาจต้องตั้งศูนย์พักพิงให้ประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบ กรณีห้ามใช้อาคารและหากประชาชนไม่มีที่ไปพัก
ห้ามใช้ตึกสน.สามเสน-อาคารรอบข้าง
นอกจากนี้ ยังระงับการใช้อาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน รวมทั้งอาคารพาณิชย์รอบข้าง โดยจะอพยพประชาชนเผื่อระยะป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติมไว้ที่ระยะ 50 - 100 เมตร จากจุดที่เกิดทรุดตัว ในส่วนสาเหตุคาดว่าการเกิดเหตุครั้งนี้ เกิดจากดินในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สไลด์จากจุดอ่อน (Weak Point) เข้าไปในพื้นที่ของสถานีรถไฟฟ้าฯ ที่มีโครงสร้าง 4 ชั้น ปริมาณของดินที่หายไปจึงมีจำนวนมาก รวมทั้งอาคารสน.สามเสน อาจไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
เขตดุสิตประกาศห้ามใช้ตึกแถวใกล้ถนนทรุด
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายเทียนชัย วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต ลงนามในประกาศสำนักงานเขตดุสิต เรื่องห้ามเข้าห้ามใช้อาคาร โดยระบุว่า ด้วยวันที่ 24 ก.ย.2568 เวลา 07.08 น. ได้เกิดเหตุถนนทรุดตัวขนาดใหญ่บริเวณถนนสามเสนทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกวชิรพยาบาลถึงแยกราชวิถี ซึ่่งส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างยากลำบาก ตลอดจนสิ่งสาธารณะของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่ และถนนอาจทรุดตัวเพิ่ม ใกล้อาคารเลขที่ 582, 584, 586, 588, 590, 592, 595, 538/1, 544-544/85 (101-112, 201-216, 301-316, 401-416, 501-516) ถนนสามเสน 148, 150, 152, 154, 156,158, 162, 168, 170, 172, 174 และ 158/6 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต
จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้น อาคารดังกล่าวอาจเป็นอันตราย เห็นควรหยุดใช้อาคาร เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2550 (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ.2544 ให้แก่อาคารบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ
รพ.วชิรฯปิดรับผู้ป่วยนอกทุกประเภท
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ออกประกาศด่วน โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ปิดให้บริการผู้ป่วยนอกทุกประเภท รวมถึง คลินิกปฐมภูมิเขตเมือง วชิรพยาบาล , คลินิกพิเศษวชิรพยาบาล จากเหตุการณ์ผิวจราจรทรุดตัวจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะดำเนินการนัดผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวกลับเข้ารับบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้
ปิดถนนสามเสนจราจรติดขัดหนัก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการด่วนให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลเร่งดูแลประชาชนและอำนวยการจราจรหลังเกิดเหตุถนนสามเสนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร และแนวโน้มทรุดตัวเพิ่ม ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และการจราจรบริเวณใกล้เคียงติดขัดอย่างหนัก สำหรับการดูแลการจราจร พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผู้บังคับการตำรวจจราจร สั่งการฝ่ายจราจร สน.สามเสน ปิดการจราจรถนนสามเสน ตั้งแต่แยกศรีย่าน มุ่งหน้าแยกซังฮี้ และถนนขาว โดยให้มีเส้นทางเลี่ยงดังนี้ - แยกบางพลัด ข้ามสะพานกรุงธน ให้ตรงไปแยกซังฮี้ ใช้ถนนราชวิถี - ถนนสุโขทัยขาเข้า ให้เลี้ยวซ้ายแยกสวนรื่นฤดีใช้ถนนราชวิถี - ถนนสามเสน ขาเข้า จากแยกเกียกกาย มุ่งหน้าแยกศรีย่าน ให้เลี้ยวซ้ายถนนนครไชยศรี เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก
สั่งอพยพ!แฟลตตร.สามเสนไม่ปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยความคืบหน้าเหตุถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ให้ตํารวจสน.สามเสน ที่อาศัยอยู่ในแฟลตอยู่มากกว่า 100 ห้องย้ายออก ซึ่งสน.สามเสน ที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นอาคารใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ จึงไม่มีคุรุภัณฑ์และยังไม่มีคนเข้าอยู่ แต่ถนนยังทรุดตัวต่อเนื่องไปจนถึงใต้อาคาร อาคารอยู่ติดกับถนนและไม่มีกำแพงกั้นการทรุดตัว เบื้องต้น มีรถยกของตำรวจ และทรัพย์สินบางส่วนเสียหาย หล่นลงไปในหลุม แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายกฯตรวจที่เกิดเหตุร่วมถกวอร์รูม
ต่อมาเวลา 10.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุหลุมยุบบนถนนสามเสน โดยกล่าวว่า ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า จึงเดินทางมา จากนั้นนายกฯขึ้นไปยังชั้น 6 อาคารเพชรรัตน์ วชิรพยาบาล เพื่อติดตามสถานการณ์จากมุมสูง และร่วมประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์ โดยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าฯกทม.บรรยายสรุปเหตุการณ์
จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่เกิดคือ การทรุดตัวของถนนจากการสไลด์ของดิน ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เกิดความเสียหายทางทรัพย์สิน คาดว่า ในส่วนที่มีคนอาศัยอยู่ เช่น ในตัวอาคารโรงพยาบาลชิรฯ หากหันไปด้านใต้ที่ติดถนนไม่มีปัญหา เนื่องจากการทรุดตัวหยุดเพียงเท่านี้ ส่วนด้านที่อยู่กลางถนน ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้า มีโครงสร้างคอนกรีตรองรับการสไลด์ได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคือ อาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน มีความสูง 5-6 ชั้น ส่วนตัวเสาเข็มลึกลงไป 26 เมตร การสไลด์ของดินทำให้เข็มขาดไป 2-3 ต้น ซึ่งสั่งอพยพคนออกจากตึกแล้ว
เล็งใช้ทีมสอบเหตุสตง.เช็คสาเหตุ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดแล้ว จากนี้เป็นเรื่องทางเทคนิคโดยผู้ว่าฯกทม.มีความรู้ด้านวิศวกรรม และผู้ว่าการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะชี้แจง
ส่วนรัฐบาลจะร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลวชิรพยาบาล สังกัดกรุงเทพมหานคร ประสานโรงพยาบาลเครือข่าย และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประสานโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิศสิน ซึ่งอยู่กลางเมือง มั่นใจว่ารองรับให้บริการผู้ป่วยได้ไม่มีอุปสรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีเจ้าภาพดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นทรัพย์สินของรฟม. ที่จะเป็นผู้รวบรวม และต้องไล่เช็คว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง นอกจากนี้ ต้องดูสาเหตุเกิดจากอะไร ทางธรรมชาติหรือการออกแบบ จะมีทีมงานเข้ามาตรวจสอบ โดยได้ขอความร่วมมือทั้งวิศวกรรมสถาน สภาวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร รวมถึงอาจต้องใช้คณะวิศวกรรม ที่เคยตรวจสอบเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ที่สำคัญต้องเคลียร์พื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิมเร็วที่สุด และเยียวยาผู้เสียหาย ทั้งยานพาหนะ และพิสูจน์สาเหตุ ยืนยันเราต้องหาสาเหตุได้แน่นอน เพราะเป็นเรื่องวิศวกรรมศาสตร์ล้วนๆ
รฟม.เร่งสำรวจแนวรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด
ส่วนที่มีการระบุสาเหตุที่ทำให้ถนนทรุด เกิดจากมีดินสไลด์เข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า นายกฯกล่าวว่าเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ซึ่งจุดเริ่มต้นจากที่มีคนเห็นความผิดปกติที่น้ำเอ่อขึ้นมาบนพื้นถนน และถนนทรุดตัว ซึ่งต้องไล่หาความผิดปกติ ขณะเดียวกันมีอุโมงค์ถึงสองชั้นที่ซ้อนกันและอยู่คนละระดับต้องมาดูว่าชั้นดินที่คั่นระหว่างอุโมงค์ในช่วงการถมดินแน่นหรือไม่ และปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามา มาได้อย่างไร
“ผมเชื่อ รฟม. จะเร่งสำรวจแนวเส้นรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างอยู่ เราต้องเร่งทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน วันสองวันนี้ต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดดินทรุดตัวให้ได้ว่าเกิดจากอะไร” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ขีดเส้น2วันหาสาเหตุ-เคลียร์พื้นที่
และย้ำว่า ต้องเร่งหาสาเหตุให้ได้ภายในวันสองวันนี้ และเคลียร์พื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติเร็วที่สุด เนื่องจากต้องมีการใช้งานต่อไป ซึ่งไม่เหมือนอาคารสตง. ที่ถล่มลงมาทั้งหมดที่เราสามารถปิดจ๊อบ และดูเรื่องของการค้นหา แต่ส่วนนี้เป็นส่วนที่ชำรุดเสียหาย เราต้องเร่งบูรณะ และเชื่อมต่อ เพื่อให้โครงการใช้งานต่อไป ส่วนทางด้านเทคนิคยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ต้องเป็นเจ้าภาพรวบรวมนักวิชาการ และมีความรู้ด้านเทคนิคการเจาะอุโมงค์ใต้ดินเพื่อเร่งหาสาเหตุ
รฟม.สั่งหยุดก่อสร้างเร่งหาสาเหตุ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นางมัลลิกา จิระพันธุ์วานิช รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อกำกับดูแลการแก้ปัญหาใกล้ชิด โดยเหตุพื้นถนนทรุดตัว เกิดหน้าทางเข้ารพ.วชิรพยาบาล ถนนสามเสน ใกล้เคียงจุดก่อสร้างทางขึ้น-ลงที่ 4 สถานีวชิรพยาบาล (PP19) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เบื้องต้นผู้ว่าการ รฟม. พร้อมผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯสั่งให้หยุดก่อสร้างบริเวณพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ พร้อมปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างบางส่วน และอพยพประชาชนโดยรอบออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
สปภ.นำโดรนสำรวจ-กู้รถตกหลุม
จากนั้นเวลา 11.50 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. นำโดรนขึ้นบินตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุถนนทรุดตัวหน้ารพ.วชิรพยาบาล ถ.สามเสน เพื่อประเมินสถานการณ์ และนำกล้องตรวจจับการทรุดตัว เบื้องต้นยังพบมีการทรุดตัวเล็กน้อยบางจุด ซึ่งการไฟฟ้าและการประปาได้ตัดกระแสไฟฟ้า และระบบจ่ายน้ำประปาในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุด USAR และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานที่สูงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถเครนมากู้รถที่ติดค้างในที่เกิดเหตุ เป็นรถกระบะ 1 คัน ออกมาได้ และอยู่ระหว่างร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท ช. การช่าง เพื่อกู้รถที่อยู่ด้านล่างจุดเกิดเหตุอีก 2 คัน และได้กั้นพื้นที่อันตราย และอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อย
2จนท.หนีตายดินสไลด์ขณะโรยตัวสำรวจ
จากนั้นเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ 2 นาย จาก สปภ. กทม.ได้โรยตัวลงไปปากอุโมงค์ จุดที่รถเก๋งสีขาวตกลงไป เพื่อจะนำเชือกสลิงไปผูกกับรถคันดังกล่าว เพื่อดึงขึ้นมา แต่เมื่อโรยตัวไปถึงด้านล่าง ปรากฏว่าดินสไลด์เพิ่ม เพราะยังมีน้ำไหลออกจากท่อประปา เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบหนีขึ้นมาด้านบน เพื่อความปลอดภัย จึงยังไม่สามารถนำรถคันดังกล่าวขึ้นมาได้ ต่อมา 13.05 น. มีรายงานถนนบริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ทรุดตัวเพิ่ม จนเสาไฟและตอม่อที่รถกระบะจอดอยู่เมื่อเช้าพังถล่มลงไปในหลุม เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง รีบวิ่งออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย
เพิ่มจุดจอดท่าเรือม.นวมินทร์ลดผลกระทบ
บริษัท ไทย สมายล์ โบ้ท รับนโยบายจากกรมเจ้าท่า ประกาศจัดเรือโดยสารไฟฟ้าเสริมการเดินทางรองรับการเดินทางของประชาชน โดยเปิดจุดจอดพิเศษที่ ท่าเรือมหาวิทยาลัยนวมินทร์ (ซึ่งอยู่บริเวณหลังวชิรพยาบาล) อยู่ตรงกลางระหว่างท่าพายัพและท่าเรือเทเวศร์ ของเรือสายสีม่วง เส้นทางท่าเรือสาทร - ท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า สามารถรองรับผู้โดยสารเดินทางเข้าเขตพระนครและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นอีกทางเลือกในการสัญจรช่วงวิกฤติ และช่วยระบายการจราจรที่หนาแน่นจากการปิดถนนบริเวณดังกล่าว บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเรือไฟฟ้าของ TSB จะจอดให้บริการเพิ่มเติมในท่าเรือมหาวิทยาลัยนวมินทร์ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน ความถี่ทุก 15 นาที/ลำ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 17.00 น. ทุกวัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร คาดว่าจะสามารถรองรับประชาชนได้หลายพันคนต่อวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี