ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 11 อดีต นศ.เทคโนปทุมวัน ยิงใส่งานแต่งคู่อริ

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 11 อดีต นศ.เทคโนปทุมวัน ยิงใส่งานแต่งคู่อริ

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.28 น.

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 11 อดีต นศ.เทคโนโลยีปทุมวัน ยิงใส่งานแต่งคู่อริต่างสถาบัน ไม่สนใจเป็นใครตาย-เจ็บเพียบ ศาลระบุชัดประชุมวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน สั่งชดใช้เงินกว่าล้านให้แม่คนตาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ห้องพิจารณาคดี 806 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิตที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายชนัญชิต แสงจันทร์ , นายเวชพิสิฐ เลือกหา , นายภัทรดนัย เปรมจิตต์ , นายธนาวุฒิ มุสตอฟาดี , นายสหัสวรรษ ภักดีนอก , นายนัฐภัทร สุวรรณไตร , นายยศพล กุลยะ, นายชุติวัต ผสมทอง, นายณัฐวุฒิ ดอกกระฐิน ,นายปณิธาน ชูพรัด, นายปองพล จันทรศร , นายณัชพล สันเต๊ะ , นายอิทธิศักดิ์ เนาะสันเทียะ และ นายศุภรพงศ์ สุขประสงค์ ซึ่งจำเลยทั้งหมดเป็นอดีตนศ.สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เป็นจำเลยที่ 1 - 14 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันฆ่าแะพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต


โจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า จำเลยทั้ง 14 คน เคยเป็นหรือเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้บังอาจสมคบกันตั้งแต่5คนขึ้นไปปรึกษากันเพื่อกระทำความผิด โดยวางแผนฆ่านักศึกษาหรือผู้ที่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งทั้ง 2 สถาบันมีความขัดแย้งสืบเนื่องกันมานานหลายสิบปี

ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 65 เวลากลางวัน จำเลยทั้งหมดกับพวก ได้บังอาจร่วมกันใช้อาวุธปืนพก ไม่ทราบขนาดและไม่มีทะเบียน 3 กระบอก และกระสุนปืนลูกซอง ขนาด .38 จำนวน 12 นัด ยิงใส่ กลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขต อุเทนถวาย สถาบันคู่อริของพวกจำเลย ขณะกำลังร่วมงานฉลองมงคลสมรส ภายในบ้านพักย่านถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. กระสุนปืนถูก นายณัฐวุฒิ พินิจใหม่ ซึ่งจบการศึกษาจากราชมงคลวิทยาเขตพระนคร ที่เป็นแขกมาร่วมงาน กระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอกเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน และบาดเจ็บ 2 คน โดยจำเลยที่ 10 นำรถจยย.คันก่อเหตุไปซุกซ่อนที่บ้านตาของจำเลยที่ 10 และร่วมกันนำเสื้อผ้าที่จำเลยที่ 1 - 9 และจำเลยที่ 11 - 14 สวมใส่ในวันก่อเหตุเผาทำลายที่บ้านจ.พระนครศรีอยุธยา

ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 80,83, 91, 184, 210, 289 พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่พวกจำเลยก่อนก่อเหตุ ขณะก่อเหตุและหลังเกิดเหตุ โดยสืบสวนข้อเท็จจริงมาประมวลผลกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยวันที่ 12 สิงหาคม 65 พวกจำเลยได้ประชุมวางแผนที่บ้านพักของจำเลยที่ 7 ย่านหนองจอกมีจำเลยที่ 1, 4, 7, 8 ,11 - 13 ไปดูลาดเลา ที่จุดเกิดเหตุ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จัดเตรียมอาวุธปืน รถจยย. เบอร์โทรศัพท์เฉพาะกิจที่สำหรับก่อเหตุ โดยในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ใส่ชุดไรเดอร์ ขี่รถ จยย.ก่อนโทรศัพท์ส่งสัญญาณให้กลุ่มจำเลยที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินและเสื้อสีครีมขี่รถ จยย.เข้าไปกราดยิงยังจุดเกิดเหตุเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 3 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน จากนั้นจำเลยทั้งหมดได้หลบหนีไป ขณะที่เจ้าหน้าที่แบ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนแยกกัน จึงยากที่จะสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 14 คน มีสาเหตุโกรธเคืองกับพนักงานสอบสวนมาก่อน เชื่อว่าพนักงานสอบสวนกระทำไปตามหน้าที่ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ให้รับฟังได้

ศาลเห็นว่า จำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 มีส่วนร่วมกันประชุมก่อเหตุเพื่อแก้แค้นสถาบันคู่อริโดยแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน หลังก่อเหตุได้นำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนทำลาย ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อันเป็นการสมคบการ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่า และพยายามผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ซ่องโจร, ส่วนจำเลยที่ 6, 10 และ 14 พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นบทลงโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พิพากษาประหารชีวิต คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 และให้จำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 ร่วมกันชดใช้เงินแก่มารดาของผู้เสียชีวิตจำนวน 1,677,400 บาท. ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6, 10, 14

ภายหลังนางรุจลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) มารดาของนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอบคุณผู้พิพากษา อัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำสำนวนคดีได้อย่างเป็นธรรมกับการที่เราสูญเสียลูกไป เพราะยังมีอีกหลายคนหลายเหตุการณ์ที่เจอเรื่องแบบนี้แล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมก็อยากให้ได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกับคดีนี้ ทั้งที่ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือที่สถาบันฯอุเทนถวาย แต่มาถูกยิงในงานแต่ง จริงๆก็อยากจะบอกว่าทั้ง 2 สถาบันต่างก็พัฒนาและสร้างบุคลากรออกมาได้ดี เพียงแต่เรื่องความขัดแย้งอาจจะเกิดจากรุ่นพี่มีอุดมการณ์หล่อหลอมมาแบบผิดๆ จึงอยากให้เลิกเพราะการสูญเสียลูกเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก

ด้าน นางพรพิมล ประจำเมือง แม่น้องหยอดที่ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมครูเจี๊ยบ กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม วันนี้ได้มาให้กำลังใจและเรียกร้องความเป็นยุติธรรมให้นายณัฐวุฒิหรือน้องเฟิร์ส ซึ่งมีผู้ต้องหา 2 คนในกลุ่มนี้ก่อเหตุซ้ำเพราะก่อเหตุยิงน้องเฟิร์สในงานแต่งงานจนเสียชีวิต จากนั้นได้ประกันตัวออกไปยิงครูเจี๊ยบกับน้องหยอด ซึ่งมือยิงกับคนพาหลบหนี คดียิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด โดนศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต แต่อีก 20 กว่าคนได้ประกันตัวระหว่างยื่นอุทธรณ์คดี ตอนนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยตนครุ่นคิดมาตลอดว่าทำไมถึงได้ประกัน

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top