หิ้ว‘นพรัตน์’ฝากขังศาล
ส่งนอนคุกคดีเงินทอนวัด
อัยการ ฟ้อง-หิ้ว“นพรัตน์”อดีต ผอ.พศ.ฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 7 คดีโกงเงินทอนวัดพนัญเชิง-กับอีก 65 วัดชายแดนใต้ ค้านประกันตัวหวั่นหลบหนีชี้คดีมีอัตราโทษสูง ศาลสั่งชดใช้ 8 ล้านบาท ไร้เงาญาติยื่นประกัน ส่งตัวนอนคุกทันที
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม อัยการฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 นำตัวนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อายุ 72 ปี มายื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 147, 151 และ 157 และขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืน หรือชดใช้เงิน 8,000,000 บาท แก่ พศ.ผู้เสียหาย
ท้ายฟ้องโจทก์ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากจำเลยได้กระทำความผิดในลักษณะนี้อีกหลายคดี ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี โดยได้หลบหนีไปยังสหรัฐอเมริกา และเป็นบุคคลที่ได้มีการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของทางการไทย กลับมายังประเทศไทย เพื่อนำมาดำเนินคดี หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีอีก
ศาลได้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.162/2568 สำเนาฟ้องให้จำเลยทราบ หมายขังจำเลยไว้ โดยวันเดียวกันนี้ไม่มีญาติ หรือบุคคลอื่นใด ยื่นขอประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการกระทำความผิดตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2566 (จังหวัดชายแดนภาคใต้ 65 วัด) เนื่องจากความผิดเกี่ยวข้องกับคดีหมายเลขดำที่ อท.110/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อท.76/2567 และคดีหมายเลขดำที่ อท.133/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อท.125/2567 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ที่ศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว
ในวันเดียวกันนี้ อัยการฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังนายนพรัตน์ เป็นครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 10 ตุลาคมนี้ เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมากที่ผู้ร้องจะต้องพิจารณา เช่น เอกสารการจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้วัด 65 วัด ผู้ร้องจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและเรียบเรียงฟ้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามข้อเท็จจริง และต้องใช้เวลาในการคัดแยกและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ใช้ประกอบการฟ้องคดีเป็นชุดใหม่ อีกทั้งภายหลังจับกุมผู้ถูกกล่าวหามาแล้ว ผู้ร้องต้องตรวจสอบว่าความผิดฐานใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหาขาดอายุความบ้างหรือไม่ ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรรม หากมีความผิดฐานใดที่ขาดอายุความ หรือมีข้อเท็จจริงใดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อำนาจในการพิจารณาเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด จึงต้องเสนอสำนวนตามลำดับชั้นถึงอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ก่อนยื่นฟ้องคดี เป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ท้ายคำร้องฝากขัง อัยการ ผู้ร้อง ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดในลักษณะนี้ในอีกหลายคดี คดีมีอัตราโทษสูงและเงินที่ผู้ถูกกล่าวหากับพวกร่วมกันเบียดบังเงินของรัฐไปเป็นของตนเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถใช้เงินดังกล่าวเป็นทุนทรัพย์ในการหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น เพื่อให้หลุดพ้นจากถูกการดำเนินคดี พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับภายหลังก่อเหตุผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนีไปยังสหรัฐอเมริกา ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐติดตามตัวผู้ถูกกล่าวมาดำเนินคดีได้โดยยาก และเป็นบุคคลที่ได้มีการร้องขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของทางการไทย กลับมายังประเทศไทย เพื่อนำมาดำเนินคดี หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนีอีก
ทั้งนี้ ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องมีกำหนด 12 วัน และอนุญาตให้สอบถามผู้ต้องหาและทำการไต่สวนพยานหลักฐานในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ในการฝากขังครั้งต่อไปได้ หมายขังผู้ต้องหาโดยไม่มีญาติหรือบุคคลอื่นใดยื่นขอประกันตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวผู้ต้องหาเข้าไปคุมขังยังเรือนจำกลางสมุทรสงคราม ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี