ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ได้รับรางวัล คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568

โดยสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน ด้วยผลงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ร้อยเอ็ดตลอดการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรกว่า 9 สมัย โดยนอกจากจะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ต่อเนื่องตลอดการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต 2 จังหวัดร้อยเอ็ด ยังมีผลงานในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม พระพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงานของชาวอีสาน การศึกษา โอกาสของเยาวชนคนรุ่นใหม่ การประกอบอาชีพ ฯลฯ เรียกว่าดูแลทุกมิติทำให้ได้รับการยกย่อว่าเป็นหนึ่งใน สส.คนดีของอีสาน และได้รับรางวัลคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ในที่สุด

สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน จัดพิธีเปิดโครงการจรรโลงพระพุทธศาสนา ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อสร้างสรรค์ความศรัทธา ความเข้าใจ และการปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนา ผ่านการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และพระธรรมคำสอน เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ณ หอประชุมสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามุกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยได้รับพระเมตตาจาก หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธ์ พระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จเป็นองค์ประธานประทานรางวัลในพิธี ทั้งนี้ รางวัล “คนดีของแผ่นดิน” เป็นรางวัลเกียรติยศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและยกย่องบุคคลผู้ทรงคุณธรรม ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม อันสอดคล้องกับหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา รางวัลนี้จึงเปรียบเสมือนเครื่องหมายแห่งเกียรติคุณและความดีงามที่สังคมยอมรับและยกย่อง ความสำคัญของรางวัลนี้มิได้อยู่เพียงในมิติของการประกาศเกียรติคุณเท่านั้น หากแต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมให้กับสังคมไทยและสังคมอาเซียน โดยเน้นการดำเนินชีวิตที่ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต มีเมตตา เสียสละ และยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ

นอกจากนี้ รางวัล “คนดีของแผ่นดิน” ยังมีบทบาทสำคัญในการธำรงและสืบสานพระพุทธศาสนา เพราะสะท้อนให้เห็นถึงพลังของบุคคลผู้เป็นแบบอย่างที่แท้จริงในการนำหลักธรรมคำสอนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน อันจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงคุณค่าของความดี และร่วมกันสืบสานเจตนารมณ์แห่งการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่สังคมสืบไป ด้วยเหตุนี้ รางวัล “คนดีของแผ่นดิน” จึงนับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ที่มีความหมายลึกซึ้ง ทั้งในฐานะเกียรติประวัติของผู้ได้รับรางวัล และในฐานะพลังสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าอย่างมีคุณธรรมและยั่งยืน