“พ.ต.ต.สุริยา” เลขา ป.ป.ส.คนใหม่ ฟิตให้นโยบาย ”เจ้าหน้าที่ชุดอินทรีย์ 19-69“ เปิดปฏิบัติการเร่งปราบยานรกทุกตารางนิ้ว ภายใต้ภารกิจ “สายด่วน 1386 ท่านแจ้ง เราจับ” พร้อมซัพพอร์ตทุกข์ร้อนประชาชน 24 ชม. จากเหตุ “นักเสพคลุ้มคลั่ง” หรือถูกหน่วยงานพื้นที่ปฏิเสธไม่รับเคส
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. อาคาร 2 ชั้น 4 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) กทม. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการอินทรีย์ 19 - 69 “1386 ท่านแจ้ง เราจับ” โดยมี คณะผู้บริหารรองเลขาธิการ ป.ป.ส. เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่อินทรีย์ 19 - 69 ร่วมให้การต้อนรับอย่างชื่นมื่น
โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในฐานะผู้นำหน่วย ตนขอยืนยันและให้คำมั่นว่า ป.ป.ส. จะเป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติด และจะเพิ่มความเข้มข้นจริงจังเพื่อแก้ปัญหาอย่างแท้จริง และเราได้มีการเพิ่มเติม ขยายความรับผิดชอบให้รู้ถึงปัญหาความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมากยิ่งขึ้น จากเดิมสายด่วน 1386 จะรับเเจ้งเบาะแสผู้ค้ายาเสพติด แต่นับจากนี้ไป ตนจะใข้สายด่วน 1386 ในการรับเรื่องที่เป็นปัญหาของประชาชนโดยเฉพาะยาเสพติด เราจะเป็นที่พึ่งและช่วยเติมเต็มทุกมาตรการ ทั้งงานป้องกัน งานปราบปราม งานแก้ไขบำบัดฟื้นฟู หากความทุกข์ร้อนใด พื้นที่ใด ที่ยังไม่มีหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือ หรือบางพื้นที่ยังไม่ได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ ตนจะให้ ป.ป.ส.ภาคต่าง ๆ เข้าไปช่วยดำเนินการขจัดทุกข์พี่น้องประชาชน เพราะต้องยอมรับว่าบางมิติในงานยาเสพติด เราแก้ไขด้วยหน้างานตัวเองได้ แต่บางมิติ เราก็อาจจะเข้าไปช่วยสนับสนุนหน่วยงานนั้น ๆ แทน ดังนั้น ป.ป.ส. ทุกภาคจะต้องเป็นผู้ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง และจะต้องกำกับรับผิดชอบควบคุมจนเคสนั้นได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ตนได้รับรายงานภาพรวมจากสายด่วน ป.ป.ส. เบอร์ 1386 ว่า เราได้รังแจ้งถึงเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาด โดยหลายรายแจ้งซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไข หรืออาจมีดำเนินการแล้ว แต่ยังขาดประสิทธิภาพอยู่นั้น อย่างไรก็ดี เรามีสำนักปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษชุดอินทรีย์ 19-69 ที่จะช่วยดำเนินการกับเป้าหมาย และตนจะนำทีมเปิดปฏิบัติการในพื้นที่แพร่ระบาดตามที่ประชาชนแจ้งเบาะแส ดังชื่อภารกิจ “ท่านแจ้ง เราจับ” ใครมีเบาะแสเรื่องยาเสพติด ให้แจ้งได้ทันที เราพร้อมรองรับ 24 ชม.
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า สำหรับที่มาที่ไปของเจ้าหน้าที่ชุดอินทรีย์ 19-69 ได้ก่อตั้งขึ้นในสมัยที่ตนเป็นรองเลขาธิการ ป.ป.ส. และมีการปฏิบัติภารกิจมาตลอด ตั้งแต่ปี 2563 แต่ในตอนนี้เรามีการปรับภารกิจเพิ่มเติมในเรื่องของการมาช่วยดูเรื่องแก้ไขพื้นที่แพร่ระบาด เพื่อจะได้มีประสิทธิภาพ ประชาชนจะได้ไว้วางใจว่าเราจะมีชุดอินทรีย์คอยซัพพอร์ตดำเนินการให้ในเรื่องที่ตกค้าง โดยเฉพาะกรณีนักเสพคลุ้มคลั่งในพื้นที่ เราก็รับแจ้ง หรือหากมีนักเสพรายใดสมัครใจอยากบำบัดก็โทรศัพท์มาที่เบอร์ 1386 ได้ หรือไม่มีพาหนะพานักเสพไปเข้ารับการบำบัด หรือถูกเจ้าหน้าที่ในพื้นที่/หน่วยงานปฏิเสธไม่รับเคส หรือลูกลับมีดหน้าบ้านมีอากาคลุ้มคลั่งจะทำอย่างไร ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ตนมองว่าประชาชนยังขาดที่พึ่ง แม้เราจะดำเนินการไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้ามันเป็นความทุกข์ร้อน เราก็ย่อมปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพวกนักค้ารายใหญ่ คนบงการเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตนจะใช้วิธีการสืบสวนด้วยเทคโนโลยีและการไล่เรียงเส้นทางการเงิน และจะกวาดต้อนให้หมดทุกราย แม้ผู้ต้องหารายนั้นจะหลบหนีหมายจับศาลไทยไปยังต่างประเทศ รอยขอบประเทศต่าง ๆ เราก็จะติดตามจับกุม ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคง ส่วนเรื่องการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดและขบวนการ ตนไม่มีการตั้งเป้าว่าต้องกี่ล้านบาท แต่เราจะทำงานเชิงคุณภาพ ไม่ขอเอาตัวเลขเป็นตัวตั้งอย่างเดียว เพราะคุณภาพของทรัพย์สินมีผลต่อคำพิพากษาตัดสินของศาล แต่เรามุ่งมั่นให้ถึงต้นตอให้ได้ แม้ตัวผู้ต้องหาหนีไป แต่ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ของเขาจะยังซุกซ่อนอยู่ไทย และลูกหลานของเขาก็ยังอยู่ในไทย เราจะใช้วิธีการกดดัน และมองขบวนการนักค้ายาเสพติดว่าเป็นศัตรู เพราะพวกเขามีการจำหน่ายและนำเข้ายาเสพติด อย่างไรก็ย่อมมีผลกระทบ
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวถึงนโยบายการปราบปรามน้ำต้มกระท่อมที่ผสมสารเสพติดผิดกฎหมาย ว่า เรื่องนี้คนจะมาสานต่อแนวทางปฏิบัติ เพราะก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณ สุข ได้มีการลงนามความร่วมมือในประกาศ เรื่องกำหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 โดยสาระสำคัญก็คือการห้ามขายใบกระท่อม/น้ำต้มใบกระท่อม ริมถนนทางเดิน หรือการตั้งเเผงเร่ขาย เป็นต้น เพราะต้องเรียนว่าหากขับรถมาจากต่างจังหวัดจะเห็นเลยว่ายังคงมีวางแผงขายสองข้างทาง เรื่องนี้ตนจะสานต่อทำความเข้าใจ โดยไม่ทิ้งพวกเขาไว้กลางทาง เพราะเราเคยบอกว่ากระท่อมคือพืชเศรษฐกิจสำหรับพวกเขา จนมีการปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด แต่เเค่มันยังไม่เกิดการขับเคลื่อนมากเพียงพอในส่วนของพืชเศรษฐกิจ เราก็ต้องมาช่วยทำตรงนี้ให้มันชัดเจน โดยอาจเชิญภาคีหน่วยงานเกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี