คลินิกสิ่งแวดล้อม: 3 ตุลาคม 2568

คลินิกสิ่งแวดล้อม: 3 ตุลาคม 2568

วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ บัญชีม้ากับความรับผิดของธนาคาร

ปัญหาความรับผิดของธนาคาร กรณีอายัดเงินเจ้าของบัญชีที่มีความเกี่ยวพันกับบัญชีที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือบัญชีม้า


เกี่ยวกับ มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนั้น เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 โดยในพระราชกำหนดดังกล่าวมีเนื้อหาบัญญัติไว้ 11 มาตราซึ่งมีสาระที่สำคัญ ที่กำหนดให้ธนาคารต้องเป็น ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ต้องรับผิดในความเสียหายโดยมีรายละเอียดคือ

มาตรา 8/10 ซึ่งมีใจความสรุปกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น

 ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งจากความรับผิดตามกฎหมายดังกล่าวทำให้หน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง คงต้องหาวิธีมาตรการในการแก้ไข ซึ่งวิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้คือกรณีที่อายัดบัญชีปลายทางที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีดังกล่าว แบ่งเป็น 2 กรณีคือ 1. อายัดบัญชีที่เป็นมิจฉาชีพ กรณีแรกนี้คงไม่ค่อยมีปัญหาใดๆเนื่องจากบัญชีปลายทางที่ถูกอายัดนั้นเป็นผู้ร่วมขบวนการหรือผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ถูกนำบัญชีไปใช้ (บัญชีม้า ) ซึ่งนอกจากการถูกอายัดบัญชีแล้วจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ฉ้อโกง ฉ้อโกง พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ คอมฯ)รวมถึงพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปราม

อาชญากรรมทางเทคโนโลยี "พ.ร.ก.บัญชีม้า"

ส่วนกรณีที่ 2 คือ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดแต่ เป็นบัญชีที่ขายสินค้าหรือบริการและรับเงินจากบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด

ดังนั้นการที่เจ้าที่ธนาคารได้มีการอายัดโดยไม่ได้การสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเจ้าของบัญชี มีส่วนร่วมกระทำความผิด หรือให้บุคคลอื่นนำบัญชีไปใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ได้ทำการอายัดบัญชีจนเกิดความเสียหายนั้น ผู้เขียนเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ดี รวมถึงธนาคารที่อายัดก็ดี ยังคงมีความผิด อันเกิดจากการกระทำละเมิดตามกฎหมาย

แม้ในการอายัดบัญชีจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ปราบปรามการฉ้อโกงในระบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าการดำเนินการที่จะอายัดบัญชีใดนั้นควรจะต้องมีหลักฐานตามสมควร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของบัญชีที่สุจริต ดังนั้นจะต้องมีวิธีการตรวจสอบหรือสอบสวนค่อยจริงให้รอบคอบก่อนที่จะทำการอายัดหรืออย่างน้อยเมื่อทำการอายัดแล้วจะต้องมีวิธีที่พิสูจน์หรือปลดอายัดที่รวดเร็วและก่อให้เกิดความเสียหายน้อยลง

นอกจากนี้ที่สำคัญแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ยังมีการยิงแอดโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เห็นข้อความ ชักชวน หลอกลวง อันเป็นความผิดตามกฎหมายข้างต้น ยังมีอยู่แพร่หลายจำนวนมาก นอกจากการอายัดบัญชีที่รวดเร็วแล้ว การปราบปรามหรือลงโทษแพลตฟอร์มที่ยังมีการโฆษณา หรือใช้ในการฉ้อโกงประชาชนก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หน่วยงานรัฐคงยังมองข้าม

-037-

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top