ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลายแหล่งส่งออกนาฬิกาปลอมกลางกรุง พบนาฬิกาแบรนด์หรู เกรดพรีเมี่ยม กว่า 800 เรือน  ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท 

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.อ.วงศ์ปกรณ์ เปรมกุลนันท์ รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ภูวเดช จุลกะเสวี ผกก.1 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ชัยพร เฮงจิตตระกูล, พ.ต.ท.ศักดิ์สะท้าน เปรื่องชนะ, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว, พ.ต.ท.อัครพล เอี่ยมสำอางค์ รอง ผกก.1 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าของเครื่องหมายการค้า
ได้ร่วมกันตรวจค้น/จับกุม จำนวน 3 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร   

รวบผู้ต้องหา  1. น.ส.จิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี 2. นายชาตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี 3. นายมนัสพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ดำเนินคดีในฐานความผิด “มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” พร้อมตรวจยึดของกลาง 

นาฬิกาปลอมแบรนด์หรู อาทิ TAG Heuer, Patek Philippe, Rolex และยี่ห้ออื่นๆ กว่า 20 รายการ  รวม 809 เรือน

พฤติการณ์ ด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่าที่ร้านไม่ติดชื่อเลขที่ ภายในอาคารในตลาดกลางกรุง ย่านสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร มีการลักลอบจำหน่ายนาฬิกาที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ราคาสูง ที่ขายตามช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โดยแจ้งข้อมูลต่อประชาชนว่าเป็นนาฬิกาเกรดท็อปสุด เรือนละกว่าสองหมื่นบาท เหมือนนาฬิกาของแท้ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายค้นเพื่อทำการตรวจค้น 

ต่อมา เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้น-จับกุม ร่วมกับตัวแทนผู้เสียหาย ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นร้านค้าไม่ติดชื่อเลขที่ ในตลาดกลางกรุง ย่านสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ร้านค้า เมื่อไปถึงพบ น.ส.จิรัฏฐ์ฯ อายุ 45 ปี, นายชาตรีฯ อายุ 48 ปี และ นายมนัสพันธ์ฯ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้น-จับกุม จึงได้แสดงหมายค้นและแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้เริ่มทำการตรวจค้น 

ผลการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวข้างต้น โดย น.ส.จิรัฏฐ์ฯ อายุ 45 ปี พบของกลางจำนวน 647 ชิ้น, นายชาตรีฯ อายุ 48 ปีพบของกลางจำนวน  130 ชิ้น และ นายมนัสพันธ์ฯ อายุ 53 ปี พบของกลางจำนวน 32 ชิ้น รวมกว่า 809 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ภายในร้านไม่ติดชื่อเลขที่ ภายในตลาดกลางกรุง ย่านสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 

จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้น-จับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ทราบ และทำการจับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป           

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย การซื้อนาฬิกาที่ปลอมเครื่องหมายการค้าเป็นปัญหาที่มีผลกระทบกว้างขวาง ทั้งต่อชีวิตร่างกาย ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจในระดับมหภาค ความเชื่อถือต่อการลงทุนในระดับนานาชาติ นาฬิกาปลอมจำนวนมากถูกผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจมีสารเคมีหรือโลหะที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้ผิวหนัง ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค แต่ยังอาจนำไปสู่ความเสียหายทางทรัพย์สินโดยตรง

นอกจากนี้ นาฬิกาปลอมมีความทนทานต่ำ ชำรุดง่าย และขาดการรับประกันที่น่าเชื่อถือ ผู้ซื้อจึงมีภาระค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนในการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่ อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรม เมื่อสวมใส่นาฬิกาที่ดูเหมือนของจริงแต่ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกลักทรัพย์ ในด้านกฎหมาย การมีส่วนร่วมซื้อหรือจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าถือว่ามีความผิดและอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดี

ผลกระทบยังขยายไปสู่มิติทางเศรษฐกิจและสังคม การแพร่ระบาดของสินค้าปลอมทำให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่ถูกต้องตามกฎหมายสูญเสียรายได้ ส่งผลต่อการจ้างงานและการจัดเก็บภาษีของรัฐ อีกทั้งยังบั่นทอนแรงจูงใจในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของผู้ประกอบการที่แท้จริง ขณะเดียวกันการซื้อสินค้าปลอมยังเป็นการสนับสนุนห่วงโซ่อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและธุรกรรมผิดกฎหมายระดับสากล ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวม

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันว่า จะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง