อสส.ลงพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบาย ติวเข้มข้าราชการอัยการ

อสส.ลงพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบาย ติวเข้มข้าราชการอัยการ

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.04 น.

อสส.เดินหน้าขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการและพัฒนาระบบราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ลงพื้นที่ติวเข้มข้าราชการในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 5 และภาค 6 แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เร่งแก้ปัญหาคดีแก๊งคอลฯ สแกมเมอร์ ที่ใกล้หมดอายุความ นำ AI ช่วยทำคดี

เมื่อวันที่15 ตุลาคม 2568 นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดและการพัฒนาระบบราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ครั้งที่ 1 สำหรับข้าราชการฝ่ายอัยการในพื้นที่ภาค 5 และ ภาค 6 ซึ่งสำนักยุทธศาสตร์ นโยบาย และแผน สำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 16 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา จ.เชียงใหม่


อัยการสูงสุด กล่าวว่า ตามที่ได้แถลงนโยบายการบริหารงานภายใต้แนวคิด “ยุติธรรมโปร่งใส ใส่ใจประชาชน เพิ่มประสิทธิผลของงาน บริหารจัดการอย่างยั่งยืน” หรือ “Justice for People” เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ในการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม จำเป็นต้องมีหลักการปฏิบัติราชการที่มุ่งไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งองค์กร โดยต้องได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและบุคลากรทุกคนในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งในฐานะผู้บริหารองค์กรอัยการ ตนพร้อมสนับสนุนและผลักดันนโยบาย โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ “ความเชื่อมั่นของประชาชน” ผ่านการดำเนินภารกิจ การอำนวยความยุติธรรมที่ไม่ล่าช้า การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารงานโครงการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารงานอื่นๆ

ทั้งนี้ อัยการสูงสุด ได้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสำนวนค้างในคดีอาญา ซึ่งจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สำนวนค้างลดลง ผลักดันให้พนักงานอัยการเรียกพยานมาซักถามเพิ่มเติมโดยไม่ต้องรอหรือแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเพื่อความรวดเร็ว โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบจำเป็นต้องเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) และวิธีการทำงานเพื่อให้การแก้ไขปัญหาสำนวนค้างในคดีอาญาลดลงอย่างยั่งยืน ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาคดีการหลอกลวงออนไลน์ผ่านแก๊ง Call Center หรือ Scammer ที่จะสิ้นสุดอายุความ

นอกจากนี้ อัยการสูงสุดยังได้กำหนดติดตามโครงการก่อสร้างของสำนักงานอัยการสูงสุดทั่วประเทศ โดยจะมีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อกำกับ ติดตามการแก้ไขปัญหาในการก่อสร้าง เพื่อให้การบริหารงบประมาณในการก่อสร้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการพิจารณาคดี และขอให้หน่วยงานรักษามาตรฐานการดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นศรัทธาของสังคมและประชาชน

ด้าน นายสราวุธ ปิตุเตชะ เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด เพื่อให้หน่วยงานราชการภายในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุดใช้เป็นกรอบและแนวทางการปฏิบัติราชการ และเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริหารและบุคลากรซึ่งเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนงานตามภารกิจและนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด ให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และสามารถตอบสนองความพึงพอใจของประชาชนให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้โครงการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดและการพัฒนาระบบราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ขึ้น จำนวน 5 ครั้ง โดยมีข้าราชการฝ่ายอัยการทั้งในสำนักงานส่วนกลางและต่างจังหวัดทั้ง 9 ภาค ตั้งแต่รองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการ อัยการพิเศษฝ่าย อัยการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงาน นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการพัสดุ นิติกร และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรม รวม 1,169 คน

สำหรับประเด็นสำคัญในการประชุมประกอบด้วย นโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุด, แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 และกรอบการประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569, การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด, แนวทางการพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยี (สำหรับพนักงานอัยการ), การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการของข้าราชการธุรการด้วยการนำเข้าข้อมูลในสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์, แนวทางในการเตรียมความพร้อมงานปรับปรุงและงานก่อสร้าง และการสรุปประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top