วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
“อาลัยสุดหัวใจ... ‘ลินจง โกยะวาทิน’ ช่างภาพแห่งสตูล ผู้เก็บภาพพระพันปีหลวงไว้ในหัวใจและเลนส์กล้อง”...สู่พิพิธภัณฑ์ “ห้องถ่ายภาพรูปของพ่อ”
เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ลินจง โกยะวาทิน” วัย 80 ปี ชาวตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล หลายคนต่างรู้จักในฐานะ “ช่างภาพผู้เก็บประวัติศาสตร์ด้วยหัวใจ” เจ้าของพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ “ห้องถ่ายภาพรูปของพ่อ” และอดีตเจ้าของห้องภาพนครศิลป์ ผู้ได้รับรางวัล นักถ่ายภาพไทยดีเด่น ประจำปี 2557 จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ
พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 625 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ภายในอัดแน่นด้วยภาพถ่ายหายากกว่า 575 ภาพ ที่เกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ภาพทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสงขลา เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวสตูลและของชาติ

ย้อนรอย “ภาพประวัติศาสตร์” เมื่อครั้งในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จเยือนสตูล 4 ครั้ง ภาพถ่ายในพิพิธภัณฑ์ยังคงเล่าเรื่องราวแห่งความทรงจำที่ตรึงอยู่ในใจชาวสตูลไม่เสื่อมคลาย กับการเสด็จเยือนจังหวัดสตูลของทั้งสองพระองค์ถึง 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1 – วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2502
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งจากจังหวัดสงขลา เพื่อทรงเยี่ยมพสกนิกรชาวสตูล ณ สนามทุ่งเฉลิมสุข หน้ารร.สตูลวิทยา จากนั้นเสวยพระกระยาหารกลางวันที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ก่อนเสด็จกลับจังหวัดสงขลา
ครั้งที่ 2 – วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2518
เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากจังหวัดนราธิวาส สู่จังหวัดสตูล พระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน ณ สนามทุ่งเฉลิมสุข เสด็จทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ที่มัสยิดมัมบัง และเยี่ยมโครงการนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อำเภอควนกาหลง ก่อนเสด็จกลับจังหวัดนราธิวาส
ครั้งที่ 3 – วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2519
เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามผลการดำเนินงานสวนสาธิตปาล์มน้ำมันอุเจริญ และเสด็จกลับในวันเดียวกัน
ครั้งที่ 4 – วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2522
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระเจ้าลูกเธอสองพระองค์ เสด็จด้วยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากจังหวัดนราธิวาส สู่จังหวัดสตูล ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ ณ วัดดุลยาราม (วัดหลวงพ่อแก่) ตำบลฉลุง และทรงประกอบพิธีเปิด มัสยิดมำบัง เขตเทศบาลเมืองสตูล ก่อนเสด็จกลับจังหวัดนราธิวาสในช่วงค่ำ
คุณลินจงเล่าว่า เธอมีโอกาส ถวายงานรับเสด็จในครั้งที่ 2 และครั้งที่ 4 ซึ่งได้รับคัดเลือกจากหัวหน้าสำนักปลัดจังหวัดสตูลในขณะนั้น ซึ่งเป็นภาพจำที่ไม่เคยลืม ความปลื้มปีติที่ได้เห็นพระพักตร์อย่างใกล้ชิด และบันทึกภาพแห่งความจงรักภักดีไว้ด้วยหัวใจ

สืบสาน “งานของพ่อและแม่ของแผ่นดิน”
เมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า
“รู้สึกเหมือนหัวใจหล่นวูบ แต่ก็ปฏิญาณกับตัวเองว่าจะสืบสานพระราชดำริของพระองค์ในการปลูกป่า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเก็บภาพไว้ให้ลูกหลานได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ”
ด้วยความมุ่งมั่นและความจงรักภักดี ปี พ.ศ. 2566 เธอได้รับเกียรติบัตร “ผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น” จากกรมศิลปากร ในฐานะผู้อนุรักษ์ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของสตูล ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางศิลปะและจิตใจ
แม้วันนี้วัยจะล่วงเข้าสู่เลข 8 แต่ “ลินจง โกยะวาทิน” ยังคงรับงานถ่ายภาพและแต่งภาพด้วยพู่กันอย่างประณีต โดยบางครั้งได้รับค่าจ้างสูงสุดถึง เกือบ 60,000 บาท ซึ่งสะท้อนถึงฝีมือและความอุทิศตนของช่างภาพรุ่นครูที่ยังไม่เคยเสื่อมคลาย
“ภาพในความทรงจำ” ที่ยังคงมีชีวิต
พิพิธภัณฑ์ “ห้องถ่ายภาพรูปของพ่อ” เปิดให้ประชาชน นักเรียน และนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ฟรี โดยมีคุณลินจงเป็นผู้บรรยายเรื่องราวด้วยตนเอง ถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและสายตาที่เต็มไปด้วยความรักในแผ่นดิน
“อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นคุณค่าของภาพถ่ายเก่า เพราะมันคือประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต และเป็นความทรงจำของพ่อและแม่ของแผ่นดิน” – ลินจง โกยะวาทิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี