วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ย้ำ “ยุทธการโค่นจริง สแกมเมอร์” คือจุดเปลี่ยนสำคัญของตำรวจไทย ประสานทุกหน่วยงาน อายัดเงินหมื่นล้าน คืนเงินเหยื่ออย่างเป็นระบบ สร้างภาพลักษณ์ ชู สน.เพชรเกษม ต้นแบบจับหัวหน้าสแกมเมอร์ จีนเทา สร้างชื่อประเทศไทยเอาจริงกับอาชญากรรมไซเบอร์
มาตรการโค่นจริง สแกมเมอร์
โดย ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา อดีตกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ผู้แทนภาคประชาชน ศิษย์เก่า Georgetown University ด้าน Cybersecurity & Policy และศิษย์เก่า University of Michigan-Ann Arbor ด้าน Data Science and Methodology
เดิม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2565 การอายัดบัญชีของกลุ่มสแกมเมอร์ เป็นไปด้วยความยากลำบากโอกาสที่จะอายัดเงินในบัญชีได้สำเร็จน้อยกว่าร้อยละ 5 แต่ปัจจุบันในยุคของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้เคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2567 และล่าสุดในยุคของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นี้ได้มีการสั่งการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์อย่างจริงจังต่อเนื่องภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ สถานีตำรวจต่าง ๆ สำนักงาน ป.ป.ง. และอื่น ๆ เป็นต้น ผลที่ตามมาคือสามารถอายัดเงินในบัญชีขบวนการสแกมเมอร์ได้ร่วมร้อยละ50 และบางรายอายัดเงินได้เกือบร้อยละ 100 แต่ยังต้องการมาตรการเพิ่มเติมบางอย่าง
วันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศไทยสามารถ “จับตัวใหญ่” ของขบวนการสแกมเมอร์ได้สำเร็จหลายราย ปัญหาที่ยังคงมีอยู่คือ ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อเดือดร้อนซ้ำซากจากเงินที่ต้องใช้จ่ายในการติดตามคดี และการคืนเงินให้เหยื่อใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี และเงินมหาศาลปะปนจากหลายฐานความผิด
ผมจึงได้ทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเร่งด่วนมาตรการโค่นจริงสแกมเมอร์ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นศรัทธาในหมู่ประชาชนทั้งไทยและต่างชาติ ว่า “ประเทศไทยเอาจริงกับการปราบสแกมเมอร์”อย่างถอนรากถอนโคน ด้วยข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ มาตรการ และภารกิจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ดังต่อไปนี้
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
1. คืนความเชื่อมั่นให้ประชาชน ว่ารัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจังกับการปราบสแกมเมอร์
2. ทำให้การคืนเงินเป็นระบบ ไม่ใช่เรื่องของโชคหรือความบังเอิญ
3. ตีวงล้อมขบวนการสแกมเมอร์ทั้งระบบ ตั้งแต่หน้าบ้านถึงเครือข่ายเบื้องหลัง
ข้อเท็จจริง
ปัญหาคดีออนไลน์จากสแกมเมอร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึง กันยายน 2568 รวมทั้งสิ้น 1,058,056 คดี รวมความเสียหาย 100,408,016,872 บาท หรือกว่า แสนล้านบาทปัญหาไม่ได้อยู่แค่ “จับคนร้าย” แต่มันคือ ปัญหาเชิงระบบ ที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือของภาครัฐ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเงินของชาติและระบบเศรษฐกิจของประเทศสั่นคลอนอย่างรุนแรง
เพราะแม้ว่าวันนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.จะมีผลงานโดดเด่นมากกว่าอดีต ทำให้เจ้าหน้าที่อายัดเงินได้ทันเป็นหลักหมื่นล้านบาท แต่ขั้นตอน “การคืนเงินให้เหยื่อ” ยังล่าช้าและไม่ทั่วถึง เพราะมีการปะปนของเงินจากฐานความผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การพนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ และสแกมออนไลน์ แนวคิดปราบปรามสแกมเมอร์: โค่นได้จริงต้องโฟกัสที่ “เงิน” เงินทุกบาทที่อาชญากรยึดไป รัฐบาลจะเอาคืนให้ประชาชนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เราจะทำให้การคืนเงินเป็นเรื่อง ‘ระบบ’ ไม่ใช่ ‘โชค’ หรือ เรื่องบังเอิญ เราจะเอาผิดทั้งตัวบงการ บัญชีม้า ซิมม้า และผู้สนับสนุนทุกระดับ ด้วยยุทธการบังคับใช้กฎหมายใหม่ มาตรการเร่งด่วน โค่นสแกมเมอร์ได้จริง“ภายใน 72 ชั่วโมง”
มาตรการโค่นจริง สแกมเมอร์ พิสูจน์ที่มาของเงิน (Source of Funds Triage) จำแนกกองเงิน 5ประเภท คือ สแกม / ค้ามนุษย์ / พนัน / ยาเสพติด/ อื่น ๆ ที่เป็นเงินปะปนจากหลายฐานความผิด และประกาศคำสั่งอายัดฉุกเฉิน เชื่อมระบบ “ตำรวจ–ปปง.–ธนาคารพาณิชย์” ให้สั่งอายัดเงินอัตโนมัติภายใน 72 ชม. โดยมีพอร์ทัล เคลมกลางหลายภาษาให้เหยื่อ (Victim Claim Portal) ยื่นขอคืนเงินได้ออนไลน์ (ไทย–จีน–อังกฤษ) พร้อมทีมทนายข้ามพรมแดนติดตามเงินคืนจากประเทศต้นทาง และเทคโนโลยี OCR/AI ตรวจสิทธิอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีอ่านข้อความจากภาพและเอกสารสแกนเพื่อย่นระยะเวลาคืนเงินและการจัดตั้งกองทุน Victim Care Fund เยียวยาชั่วคราวก่อนคืนเงินจริง
ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ได้แก่ อายัดเงินไม่น้อยกว่า 70% ของยอดเสียได้ภายใน 72 ชม. คืนเงินไม่น้อยกว่า 50% ภายใน 30 วัน ปิดบัญชีม้า/ซิมม้าไม่น้อยกว่า 2,000 รายการต่อเดือน ปิดเครือข่ายสแกมระดับใหญ่ไม่น้อยกว่า 5 เครือข่ายต่อไตรมาส และ ความเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15 จุดใน 120 วัน ผลที่ตามมาคือ ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนคนไทยและต่างชาติ ความแข็งแกร่งมั่นคงทางการเงินของประเทศไทยจะกลับคืนมาสู่ความเป็นผู้นำทางการเงินยุคดิจิทัลของภูมิภาคได้
ข้อเสนอปรับปรุงกฎหมาย โดยมุ่งเน้นไปที่ การเพิ่มโทษ Aggravated Offence กรณีใช้บัญชีม้า ซิมม้า Deepfake หรือมุ่งเป้าเหยื่อเปราะบางสามารถเอาผิดผู้สนับสนุน คนขายบัญชีม้า นายหน้า ผู้ดูแลระบบเพจม้า และปรับปรุง พ.ร.บ.ฟอกเงินโดยที่เปิดทางอายัดด่วน 72 ชม. ผลักภาระพิสูจน์ต่อผู้ครอบครองเงิน นอกจากนี้ ปรับกฎหมายโทรคมและ PDPA โดยประยุกต์ใช้กรอบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ NISTสหรัฐอเมริกา กฎหมาย GDPR ของยุโรปและมาตรฐาน ISO/IEC 27001 (มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยสารสนเทศ) พร้อมกับอนุญาตให้หน่วยงานแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างปลอดภัยภายใต้ระบบ Audit Log
กฎหมายที่ปรับปรุงใหม่นี้จะเพิ่มโทษขบวนการสแกมเมอร์ที่มุ่งโจมตีกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก เยาวชน คนยากจนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มคนในพื้นที่ชายขอบ และกระทำกันเป็นขบวนการข้ามชาติที่มีเม็ดเงินผิดกฎหมายหมุนเวียนจำนวนมาก
“หากเราทำได้ตามแนวทางนี้…ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะเรามีระบบคืนเงินที่โปร่งใส รวดเร็ว และเชื่อถือได้ และเมื่อมีผู้นำและผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้ง ‘ระบบ’ และ ‘หัวใจของเหยื่อ’ ความเชื่อมั่นของคนไทยและนานาชาติ…จะกลับมา” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา กล่าวปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี