‘ชัชชาติ’ นำทีมตรวจลุยตรวจควันดำอู่รถเมล์-สองแถว เริ่มใช้มาตรการเข้มรับมือฤดูฝุ่น

‘ชัชชาติ’ นำทีมตรวจลุยตรวจควันดำอู่รถเมล์-สองแถว เริ่มใช้มาตรการเข้มรับมือฤดูฝุ่น

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.16 น.

‘ชัชชาติลงตรวจควันดำ อู่รถเมล์สาธุประดิษฐ์ กทม. ขนส่ง-ตร.จราจร ลุยตรวจเข้มมาตรฐานใหม่ ผู้ว่าฯย้ำ ตั้งจุดตรวจที่ต้นตอ ไม่บนถนนทำรถติดเพิ่มมลพิษ

 


วันที่ 3 พ.ย.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจควันดำรถเมล์ ณ อู่สาธุประดิษฐ์ และสุ่มตรวจรถสองแถว บริเวณใต้สะพานภูมิพล เขตยานนาวา โดยกล่าวว่า เข้าเดือนพฤศจิกายนจะเริ่มฤดูฝุ่น ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแก้ปัญหาต่อเนื่องมา ในกรุงเทพฯ มี 3 ปัจจัย คือ 1.สภาพอากาศที่ปิด ทำให้อากาศไหลเวียนได้ไม่ดี 2.รถยนต์โดยเฉพาะรถดีเซล ที่การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ และ 3.การเผาชีวมวล จากพื้นที่รอบข้างและในกทม.เอง ปีที่ผ่านมาเราได้มีการหารือกับกรมควบคุมมลพิษ ตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ปรับมาตรฐานควันดำให้เข้มข้นขึ้น โดยการวัดควันดำเดิมไม่เกิน 30% ลดเป็นไม่เกิน 20% วานนี้ตรวจวัดไป 900 คัน มีรถเกินค่ามาตรฐาน 21 คัน จากข้อมูลเราเชื่อว่าการปรับปรุงนี้จะทำให้ดีขึ้นประมาณ 24% ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มลุยตรวจจับตามมาตรฐานใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

 

“การตั้งจุดตรวจ อยากให้ไปตรวจที่ต้นตอ คือ อู่รถเมล์ ท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงไซด์ก่อสร้างในกรุงเทพฯ รถที่เข้ามาก็ต้องอยู่ใน Green List หากไม่อยู่ในบัญชีก็จะมีคำสั่งให้หยุดก่อสร้าง การไปตั้งจุดตรวจ อยากให้ไปตรวจที่ต้นตอแทนที่จะไปตรวจบนถนนอาจทำให้รถติดและเพิ่มปัญหามลพิษมากขึ้น แต่ก็อาจจะมีการสุ่มตรวจอยู่บ้าง” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

 

ส่วนมาตรการที่เราทำเพิ่มเติมคือ ห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพฯ Low Emission Zone ปีที่แล้วได้ผลดี โดยกำหนดเขตพื้นที่วงแหวนชั้นใน มีการประกาศห้ามรถบรรทุก 6 ล้อที่ไม่ได้อยู่ในบัญชี Green List  หรือบัญชีสีเขียวเข้า ในวันที่อากาศไม่ดี ใช้กล้อง CCTV จับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ รถที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีจะถูกออกใบสั่งปรับ ปีนี้ขยายพื้นที่เป็นทั้ง 50 เขตกรุงเทพฯ รถที่จะเข้ามาในช่วงฝุ่นวิกฤติจะต้องอยู่ในบัญชี Green List รถไม่อยู่ในบัญชีจะเข้าไม่ได้ ก็ต้องเอารถไปตรวจสภาพเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-ไส้กรอง และลงทะเบียน Green List นอกจากนี้ กทม.ร่วมกับเอกชน โครงการ Green List Plus ขอความร่วมมือประชาชนรถยนต์ 4 ล้อ ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-ไส้กรองช่วงนี้ถึงต้นปีหน้าจะได้ส่วนลด จาก 9 บริษัทที่เข้าร่วม ก็อยากให้พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมปรับปรุงคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น

 

ในส่วนของการเผา ปีนี้เราทำเชิงรุก จากข้อมูลปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าจุด hotspot อยู่ที่ไหนบ้าง ในกรุงเทพฯ เรามีนาข้าวอยู่เกือบ 1 แสนไร่ เรามีเครื่องอัดฟางไปให้ใช้ที่ผ่านมาเรามีจุด hotspot ค่อนข้างน้อย แต่จะเห็นในพื้นที่รอบข้างโดยจะโฟกัสจุดที่เห็นชัดเจนว่ามีปัญหา เช่น นครนายก มีจุดที่มีปัญหาอยู่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าวต้นยาว 5,000 ไร่ การเข้าไปแก้ต้องใช้ความร่วมมือหลายภาคส่วน

 

“สถานการณ์ฝุ่นปีนี้ จากที่คุยกับรัฐมนตรีฯสุชาติ มีปัญหาเช่นเรื่องแรงงานต่างชาติที่มีน้อย แรงงานที่จะไปตัดผลิตภัณฑ์เกษตรหายาก เกษตรกรอาจจะไปเลือกวิธีการเผา โดยเฉพาะอ้อยซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเรา ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้มีปัญหา ซึ่งเราเองก็ต้องช่วยเกษตรกรแก้ปัญหาด้วย มีการบูรณาการทุกภาคส่วน เป็นนิมิตหมายที่ดีในการแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น“ นาย ชัชชาติกล่าว

 

การลงพื้นที่วันนี้ นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ตำรวจจราจรในพื้นที่ ผู้เกี่ยวข้องร่วมตรวจ

036

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top