วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรียน พี่น้องข้าราชการตำรวจ

ผมฟังพลตำรวจโทไตรรงค์ฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ รายการหนึ่งว่า ผมไปด้อยค่าตำรวจ 2 แสนกว่าคน จากการที่ผมตำหนิว่า แก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดคือ ตำรวจนี่เอง 

ผมมองว่าพลตำรวจโทไตรรงค์ฯ น่าจะฟังสิ่งที่ผมพูดไม่ดีพอ ผมได้พูดขยายความอยู่แล้วว่า ตำรวจทั้งประเทศมีดีมากกว่าไม่ดี ผมพูดถึงกองบัญชาการไซเบอร์ เกี่ยวกับการจับกุมเว็บพนัน แก๊ง สแกรมเมอร์ ไม่ได้พูดถึงตำรวจทั้งประเทศที่ท่านหมายถึง ผมหมายถึงการที่ตำรวจหน่วยไซเบอร์ ซึ่งเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทำไมปล่อยปละละเลยให้มีเว็บพนันมากมายมหาศาลขนาดนี้ ปล่อยแก๊งสแกรมเมอร์หลอกประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดินขนาดนี้ เป็นเพราะอะไร ต้องไปถามท่านเอง ทำไมถึงไม่จับ และทำไมลูกน้องถึงไปเปลี่ยนคำให้การ จนสำนวนอ่อน อัยการสั่งไม่ฟ้องขนาดนี้ และผมบอกว่าตำรวจไม่กี่คนทำให้ตำรวจสองแสนกว่าคนพลอยเสียหายไปด้วย 

ท่านอย่าเอาตำรวจทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเป็นเกราะปิดบังสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ วันนี้ที่แน่ๆ ประชาชนด่าทอท่านทั้งแผ่นดิน ตำรวจสงขลาบ้านเกิดผมเดือนร้อนจากการกระทำของท่านและลูกน้องแต่เขาพูดไม่ได้เพราะกลัว เขาบอกว่าผลประโยชน์อะไรเขาก็ไม่ได้รับ ทำไมเขาต้องมาเดือดร้อนเรื่องนี้ด้วย 

ผมถึงบอกไงว่าตำรวจมีดีมากกว่าไม่ดี แต่เมื่อถึงวันนึงที่ตำรวจที่มีหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฏหมาย มันจะเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่เสียเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการด้อยค่าตำรวจสองแสนกว่าคนตรงไหนเลย 

วันนี้ผมเป็นประชาชนคนธรรมดา ผมเติบโตมาจากองค์กรนี้ ผมยังอยากให้องค์กรนี้ไม่ถูกซอยย่อยไปขึ้นกับหน่วยนั้น หน่วยนี้ จนพี่น้องตำรวจที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเว็บพนัน  สแกรมเมอร์ ซึ่งมีการเก็บผลประโยชน์กันบางหน่วยเดือนละเปึน 300 400 ล้าน ตามข้อมูลของคุณอัจฉริยะ ต้องเดือดร้อนจากการถูกซอยย่อยให้ไปขึ้นกับกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ จากการที่มีตำรวจเลวเพียงกลุ่มเดียว ทำให้ประชาชน ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเอือมระอา จนต้องทำโครงสร้างใหม่ โดยให้ ตม. โอนไปมหาดไทย ตำรวจภูธรขึ้นกับผู้ว่าฯ เป็นต้น แล้วตำรวจดีๆ อีกมากมายมหาศาล จะมีที่ยืนหรือ และทำไมเขาเหล่านั้นต้องมารับเวรกรรมจากตำรวจบางกลุ่มที่เก็บเงินเว็บพนันเดือนละ 300 400 ล้าน จากที่คุณอัจฉริยะ พูด จนทำให้องค์กรต้องพังพินาศ จนต้องแยกย่อยไปขึ้นกับกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจตำรวจสองแสนกว่า จากนำ้มือกลุ่มคนที่ร่ำรวยล้นฟ้าเพียงไม่กี่คนเท่านั้น 

ผมจะได้กลับมารับราชการ หรือไม่ได้กลับมารับราชการ ไม่เป็นไร แต่ผมไม่มีวันทำลายองค์กรแห่งนี้ ที่ทำให้ผมมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มาจนถึงทุกวันนี้ และผมยังอยากให้องค์กรนี้ อยู่คู่กับแผ่นดินนี้ ภายใต้ความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชน และตำรวจทั้งประเทศ จะต้องมีที่ยืน หากผมยังอยู่ วันนี้ ผมต้องออกไปต่อสู้เพื่อไม่ให้องค์กร ต้องถูกซอยย่อยไปขึ้นกับหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ อย่างแน่นอน 

แต่วันนี้ ผมยังไม่เห็นมีผู้บังคับบัญชาคนไหนออกไปต่อสู้เพื่อองค์กร และให้ตำรวจสองแสนกว่านาย เขามีที่ยืนเลย มีแต่เขาสงสัย ลังเล ว่าต่อไปจะต้องโอนไปกระทรวงโน่น กระทรวงนี้ เขาขาดความมั่นคงในหน้าที่การงาน มันจึงเป็นเหตุให้ตำรวจแต่ละปี ลาออกมากขึ้นทุกปี ทุกปี มีแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นแหละ ที่เป็นองค์กรอาชญากรรม 

ท่านไตรรงค์ เข้าใจดีแล้วนะครับ อย่าไปบิดเบือนเลยครับ ผมวิจารณ์ได้ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่คุ้มครองประชาชนอย่างผม เพราะผมเสียภาษีให้แผ่นดิน รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานเพื่อประชาชน ประชาชนอย่างผม ย่อมวิจารณ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการไปปรับปรุงแก้ไข ท่านไม่ต้องไปยุให้ตำรวจเกลียดผม เพราะผมไม่ใช่ตำรวจแล้ว แต่ผมแค่มีจิตวิญญาณความเป็นตำรวจ เหนือกว่าตำรวจบางคนเท่านั้น ขอให้ท่านไปทำหน้าที่ แก้ไขเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังจะพรั่งพรูออกมาจากนี้ไปอีกมากมายมหาศาลดีกว่า